วัตถุมงคล “เหรียญมหาบพิตร” มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ
คือ มีทหารนายหนึ่งไปรบ แล้วโดนระเบิดแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านได้เสด็จไปเยี่ยม
พระองค์ได้มีรับสั่งกับทหารนายนั้น ได้ข่าวว่าคุณหนังเหนียว
อยากทราบว่าคุณพกวัตถุมงคล เครื่องรางอะไร หรือมีอะไรดี
ทหารนายนั้นกราบทูลว่าข้าพระคุณเจ้ามีวัตถุมงคล
พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จึงขอทอดพระเนตรวัตถุมงคลของ
นายทหาร
นายทหารจึงหยิบห่อผ้า ถวายพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ทรงเปิดห่อผ้า ทอดพระเนตรเห็นเหรียญ 1 บาท
ตราครุฑ ซึ่งไม่มีการลงเลขยันต์ใดๆ เลย
ทหารนายนั้นมีความจงรักภักดี ต่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สูงมาก
ซึ่งอาจารย์แขกได้อธิบาย นายทหารคิดดีทำดีอยู่แล้ว
จนถึงขั้นสร้างพลังจิตให้ตัวเอง เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันให้ตัวเองได้
คนเราแม้จะคงกระพันหนังเหนียวอะไรก็แล้วแต่
จิตตัวเองต้องแข็ง เพราะฉะนั้นวิชาการของบูรพาจารย์สมัยอดีต
...ให้ท่องวัตถุมงคล ท่องคาถา สร้างพลังจิตให้ตัวเอง
แต่ทหารนายนั้นมีความจงรักภักดีสูง ถึงขั้นยอมตายถวายชีวิต
เพื่อรักษาแผ่นดิน ขอให้ดำรงไว้เพื่อแผ่นดินไทย
แต่ในตัวมีเหรียญ 1 บาท ปี 2517 ซึ่งด้านหลังเป็นตราครุฑ
ตราประจำแผ่นดิน ด้านหน้าเหรียญเป็นพระบรมฉายาลักษณ์
พระเจ้าอยู่หัวราชกาลที่ 9 หากจะเปรียบก็เหมือน “พก”
พระโพธิสัตว์ชั้นสูง จึงสร้างพลังจิตให้ตัวเอง
จนถึงขั้นคงกระพันแคล้วคลาดได้
เหรียญมหาบพิตร จึงกลายเป็นเหรียญที่ทหารหลายๆ นาย
หลายยุค หลายสมัย มีประสบการณ์มากเรื่องคงกระพันแคล้วคลาด
จนถึงขนาดบอกกันปากต่อปาก
เหรียญครุฑของเราเป็นเหรียญวิเศษ ไม่ต้องไปหาพระอะไร
ข้อสังเกตของเหรียญให้ดูง่ายๆ คือ ด้านหลังซึ่งเป็นรูปครุฑ
“อ้าขา” ซึ่งถือเป็นเหรียญแรก ในสมัยก่อนการทำแบบนี้
พราหมณ์ต้องมีการบวงสรวง หากจะถามว่าต้องเสกมั้ย?
ตอบว่าไม่เสกก็เหมือนเสก จึงทำให้มีความขลังในตัวสูงมาก
ครูบาอาจารย์ในสมัยอดีต บังคับเลยหากจะทำเหรียญขวัญถุง
“ล่าสุด” พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี
ท่านได้กล่าวกับอาจารย์แขก หากจะทำเหรียญขวัญถุง
ให้ไปนำเหรียญ 1 บาท ปี 2517 เหรียญนั้นไม่ต้องทำอะไร
ก็ศักดิ์สิทธิ์ พกติดตัวก็คงกระพันแคล้วคลาด คงอำนาจ
มหานิยมทุกอย่าง เรียกว่า “เหรียญมหาบพิตร” คำว่า
“เหรียญมหาบพิตร” ได้ยินเป็นครั้งแรกจากพ่อท่านเขียว
บูรพาจารย์ในสมัยอดีต..อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย
ท่านกล่าวว่า “หมอ (หมายถึงอาจารย์แขก) เหรียญ 1 บาท
นั้นดีที่สุดแล้ว เวลาไปโดนอาถรรพณ์ก็ไม่ต้องใช้อะไรเลย
แค่เอาเหรียญ 1 บาท ปี 2517 ไปตอกใส่เสาเลยแล้วก็หาย
(บ้านหลังนั้นเป็นเสาไม้ตะเคียนตกน้ำมัน “เฮี้ยน” มาก)
ซึ่งเราจะเคยได้ยินคำโบราณบอกว่า ตะเคียนต้นไหนเฮี้ยน
ตัดไม่ได้ ไม่ต้องทำอะไรเลย ให้เอาตราครุฑไปประทับ
รับประกันว่าตัดได้หมด อะไรก็อยู่ไม่ได้
คือ เอาเหรียญนี้ไปแปะติดแล้วตอก ให้รูปครุฑฝังในเนื้อไม้
โดยไม่ต้องเสกคาถาอะไรเลย นี่คือเรื่องจริง
เนื่องจากครุฑมีอานุภาพรุนแรง และมีแค่เหรียญปี 2517 เท่านั้น
ครูบาอาจารย์สมัยก่อน นิยมเอาเหรียญครุฑปี 2517
มาทำเป็นเหรียญขวัญถุง
เหรียญมหาบพิตร ซึ่งวัตถุมงคลของอาจารย์แขกต้องไม่ธรรมดา
คือ เป็นเหรียญ “แจกทาน” ของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
จังหวัดระยอง มีตอกโค๊ด เลข 3 แต่มี 3 เล็ก และ 3 ใหญ่
อาจารย์แขกได้เหรียญจากคุณหมอลัดดา
ซึ่งเป็นผู้ดูแลหลวงปู่ทิม จำนวนมากพอสมควร
ในสมัยนั้นพระผงพรายกุมาร พิมพ์เล็ก
ราคาตกองค์ละ 1,000 บาท พิมพ์ใหญ่ 1,500 บาท
ซึ่งในเวลานั้นขายเหมา เหรียญละ 30 บาท
ซึ่งเหรียญนี้หลวงปู่ทิมได้ปลุกเสกด้วย เมื่อปลายปี พ.ศ. 2517
จึงเป็นเหรียญ “แจกทาน” ที่มีราคาแพงมาก
ปัจจุบันมี “ปลอม” เยอะมาก จึงเท่ากับเป็นเหรียญ
ของหลวงปู่ทิม (ด้านหน้าเป็นโค๊ด ข.ไข่ในหยดน้ำ
คือ เป็นโค๊ดที่ตอกเหรียญหนุมานตัวกูผู้ชนะ)
ซึ่งอาจารย์แขกได้นำไปเข้าพิธีปลุกเสกด้วยเช่นกัน
ดังนั้น “เหรียญมหาบพิตร” ของอาจารย์แขก
เท่ากับมีผู้ปลุกเสก คือ หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
และ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ส่วนจุดดำๆ
ที่ติดอยู่หน้าด้านเหรียญ อาจารย์แขกได้นำพระที่มีส่วนผสมของ
“ผงจิตรลดา” นำมาบด นำมาผสมกับกาวอย่างดี
แล้วนำมาติดที่ด้านหน้าเหรียญมหาบพิตร
พร้อมกับผงตะไบโลหะ อาถรรพ์์ตามวิชาเหมาซาน
ผงเหล็กไหล 700 กว่าชนิด ผสมรวมกัน
แล้วติดด้วยเศษจีวร (ของสูง) และมีการรันเลข
เพื่อเป็นบรรทัดฐานของเหรียญรุ่นนี้
สำหรับความพิเศษของเหรียญมหาบพิตร
ซึ่งอาจารย์แขกเตรียมนำไปล้อมกรอบเพชร
เพื่อนำขึ้นคอ โดยมีหมายเลขเรียงกัน 999
ซึ่งนอกจากจะเปิดให้บูชาแล้ว
อาจารย์แขกยังได้กันเหรียญไว้อีกจำนวนหนึ่ง
เพื่อนำไปมอบให้กับวัดๆ หนึ่ง เพื่อนำไปหารายได้สร้างโบสถ์
จังหวัดพิษณุโลก
ประสบการณ์ของเหรียญมหาบพิตร
จากการเปิดเผยของอาจารย์แขก ชีวิตในอดีต...
ท่านเคยไปคุมตัดไม้ที่จังหวัดกาญจนบุรี
เคยไปอยู่กับพวกกระเหรียงนานมาก
ไปเรียนวิชาสายกระเหรี่ยงมา
วันหนึ่งเขาไปตัดไม้ตะเคียนลงน้ำ
ซึ่งในเวลานั้นน้ำก็ไหลแรงแต่ซุงมันไม่ไปตามน้ำ
พยายามดันเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป
พี่คนหนึ่งจึงเอาเหรียญมหาบพิตร
เอาด้านที่เป็นครุฑไปวางบนซุง แล้วตอกด้วยด้ามขวาน
พอเหรียญจมลงไปในเนื้อไม้
ซุงมันพลิกกลับทันที แล้วลอยไปตามน้ำ
เหรียญมหาบพิตรมีพุทธคุณรุนแรง
พวกพรานป่า จะพกเหรียญรุ่นนี้
เวลาจะนอนต้องหันหัวไปชนต้นไม้
แต่ก่อนจะเอาหัวชนต้นไม้ เขาจะลอกเปลือกออกก่อน
แล้วเอาเหรียญมหาบพิตรตอกไปบนต้นไม้ให้เป็นรูปครุฑ จ
ากนั้นเอาหัวนอนชนต้นไม้ที่ติดรูปครุฑ
หากทำได้แบบนี้ ป่าไหนก็ไม่มีทางทำอันตรายแกได้เลย
เหรียญนี้ อ.แขก ได้นำมาผ่านพิธีล้างน้ำทั้ง 5 ของเหมาซาน
ล้างพลังงานหยางให้สมดุล
และได้สร้างตามตำราวิชาเหมาซาน
ผงที่แปะอยู่ด้านหน้า เป็นการเสริมพลังงานหยางอย่างรุนแรง
ใช้อำพันแดงที่ทำสัมพันธ์กับมนุษย์โดยตรง
เหรียญนี้เปรียบเสมือนฮู้เหยียบในวิชาเหมาซาน
ที่เราพกไว้ เป็นเหรียญที่ดึงพลังงานเรื่องเงิน
เข้าหาอย่างรุนแรง
ตราบใดที่เราใช้เงินประเทศไทยอยู่ เราจะไม่ขาดเงิน
บูชา 3,000 บาท
แบบเลี่ยม 3,200 บาท
โน้ตยินดีให้บริการค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น