เมื่อว่าคาถาแล้วเอามือปาดปากซ้ายขวา
ลักษณะเหมือนเสือที่กินแล้วก็ปาดปาก
รับประกันได้เลยว่า ได้ตามนั้นทุกประการ
เสือแก่นไม้มะขาม เป็นเครื่องรางของท่านอาจารย์แขก
ซึ่งแกะจากไม้มะขาม ใช้เวลาในการเสก 7 ปี
และเสือยังเป็นวัตถุมงคลที่อยู่ในใจของอาจารย์แขก อันดับ 1 เนื่องจากท่านเป็นคนจังหวัดสมุทรปราการ
และได้ยินได้ฟังพุทธคุณเสือของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย
(วัดคลองด่าน) และที่เหนือสิ่งอื่นใด
ยังเป็นวิชาที่ท่านชอบมาก ได้ไปเรียนจากครูบาอาจารย์
มาเป็นจำนวนมาก โดยเน้นหนักเรื่องการเสกเสือ
เรียนเสือ ทำเสือ
เก่ากว่าของหลวงพ่อปานเสียด้วยซ้ำไป
ซึ่งเป็นสายของวัดประดู่ทรงธรรม ตั้งแต่สมัยอยุธยา
ซึ่งมีตำราการทำเสือเหมือนกัน
การทำเสือของหลวงพ่อปาน ท่านทำตามสายของ
วัดประดู่ทรงธรรม (เก่ากว่าสายเขาอ้อ)
สืบทอดมาจากเมืองมะละแหม่งของพม่า
หลวงพ่อปานท่านเรียนเสือมาจากหลวงพ่อแตง
วัดอ่างศิลา หลวงพ่อแตงท่านเป็นศิษย์กรรมฐาน
ของวัดประดู่ทรงธรรม ในครั้งแรกที่ท่านอาจารย์แขกเรียน
ก็เป็นวิชาของหลวงพ่อปาน
โดยเรียนมาจากปู่ ซึ่งเป็นคนจังหวัดสมุทรปราการ
และปู่ของท่านเป็นเกลอกับหลวงพ่อปานอีกด้วย
คนที่ใกล้ท่านอาจารย์แขกจะทราบว่า วิชาเสือเป็นวิชาที่ท่านถนัดที่สุด เพราะได้เรียนมาเป็นลำดับ 1 และคาถาปลุกเสกเสือ
สายของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยของท่านอาจารย์แขก
มีความสมบูรณ์ที่สุด
เมื่อตอนที่ท่านอาจารย์แขกเรียนเสือ ท่านก็ได้ค้นคว้าลงไป
ในทุกอาจารย์ของสายหลวงพ่อปาน ท่านมีลูกศิษย์ คือ
หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส และ หลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม
และอีก 2 รูปที่ไม่มีคนรู้จัก คือ อาจารย์ทอง วัดก้อนแก้ว
ฉะเชิงเทรา และ หลวงพ่ออาด วัดสีล้ง สมุทรปราการ
ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน ส่วนอาจารย์อาด
วัดสีล้ง ท่านเป็นพระปฏิบัติ จึงไม่มีใครรู้จัก
แต่ท่านก็เรียนวิชาของสายหลวงพ่อปานด้วยเหมือนกัน
ทั้งหมดที่เอ่ยนามมา คือ พระที่เรียนวิชาเสือของหลวงพ่อปาน
วัดบางเหี้ย และยังมีอาจารย์ฆราวาสอีก 2 คน คือ
เจ๊กจุ่น ขายหมู คนนี้เรียนวิชาทำเสือมาจาก
หลวงพ่อปานเหมือนกัน โดยเป็นคนแกะเสือ
ให้หลวงพ่อปาน อีกคนชื่ออาจารย์เล็กเป็นอาจารย์สักยันต์
เรียนวิชาจากหลวงพ่อปานโดยตรงเหมือนกัน
และจากปู่ของท่านอาจารย์แขก ซึ่งเป็นเกลอกับหลวงพ่อปาน
แต่ตัวท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา
จากนั้นท่านอาจารย์แขกได้เรียนตามตำรา
เราจะเห็นว่าเสือหลวงพ่อลงเป็นเลข เลข 7 เลข 3
อันนั้นถือเป็นวิชาการลงเสือ ของสายวัดประดู่ทรงธรรม
ซึ่งเลขแต่ละตัวมันเป็นตัวแทนคาถา เนื่องจากเสือมันตัวเล็ก
และเวลาที่จารตัวคาถา เนื้อที่มันไม่พอ
ในการลงเป็นเลขแต่ละเลข ยังซ่อนไว้ด้วยดาวนพเคราะห์
ในแต่ละดวงอีกด้วย
ดังนั้นในเสือหลวงพ่อปาน เราจะเห็นดาวนพเคราะห์
ครบทั้ง 9 ดวง แต่ซ่อนอยู่ในรูปเคารพของเลขกับยันต์
ส่วนยันต์กอหญ้าที่ก้น คือ เป็นยันต์ตัวกำเนิด
เป็นตัวเดียวกับที่หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย
ใช้ แต่เป็นการเขียนแบบเรียบร้อย ซึ่งผิดกับหลวงพ่อปาน
ที่จารแบบหวัดๆ คนอ่านไม่ออกจึงเรียกเป็นกอหญ้า
ด้วยเหตุท่านอาจารย์แขกชอบเสือมาก
ท่านจึงสืบวิชาทั้งหมดไว้ว่ามีความเป็นมาอย่างไร
ถ้าเป็นภาคกลาง หลวงพ่อปาน อันดับ 1 ถ้าเป็นทางใต้
หลวงพ่อนุ้ย ท่านมีลูกศิษย์โดยตรง คือ หลวงพ่อเริ่ม
วัดคีรีวงศ์ เกาะสมุย หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย
ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเริ่ม ท่านอาจารย์แขกได้เข้าถาม
การลงเสือของหลวงพ่อปาน จากปู่ของท่าน
และวิธีการลงเสือจากอาจารย์ทอง
ปรากฏว่าเหมือนกันทุกอย่าง
แต่สายใต้มีการเสกเสือเพิ่มขึ้นมา ตามตำรา “นะ”
ตัวหนึ่งของทางใต้
นี่คือ 2 สายหลักๆ แต่เสือชุดนี้มีวิชาเสือของทางลาวด้วย
วิชาการลงเสือของทางลาวจะไม่เหมือนกันอีก
แต่ทุกอย่างว่าด้วยเรื่อง “ย่อศีล” พุท ธะ สัง มิ คือ ศีล 227 ตัว
ย่อลงมาแล้วเหลือเพียง พุท ธะ สัง มิ แต่ใน “พุทธ” ตัวนึง
จะมีการลากลงอักขระเลขยันต์ เป็นหัวใจ ย่อมาจากปาติโมกข์
ทั้ง 4 ตัวเป็นหัวใจของปาติโมกข์ แต่คนรุ่นใหม่รู้เพียงว่า “ย่อศีล”
ถามว่าในเมื่อเป็นเสือ ทำไมถึงลงย่อศีล คนจะมองว่าเสือดุร้าย
กินโน้นกินนี่เป็นอาหาร ก็ความที่เป็นเสือยังไง
คนโบราณถ้าเป็นโจรแต่มีศีลธรรม เขาจะเรียกว่า “เสือ”
แต่ถ้าไม่มีศีลธรรมก็เรียก “โจร” เพราะเสือมีศีล มีการจำศีล
เสือที่มีความดุร้าย แต่เมื่อใดที่มีการจำศีล มันก็จะกลายเป็น
“พญา” ของเสือ ตามตำราของสายวัดประดู่ทรงธรรม
เพราะฉะนั้นเขาจึงเอาคุณวิเศษสุดของพระพุทธเจ้า
องค์ปัจจุบัน บวกคำสอนในปาติโมกข์ ย่อลงมาเหลือเพียง
พุท ธะ สัง มิ มาลงอยู่ในเสือ แต่อักขระเลขยันต์
ตามสายของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ที่ลงเป็นตัวเลข
เป็นตัวแทนของนะทั้งหมด ต่อออกมาเป็น “นะ”
และตัวแทนของดาวนพเคราะห์
วิธีการเสกเป็นอะไรที่ยาก แต่เสือของท่านอาจารย์แขก
เป็นต้นตำราของวิชาเสือ ในตำราสมัยก่อนไม่ได้ระบุ
ให้เอาเขี้ยวเสือมาทำ แต่ในตำราระบุให้หาแก่นมะขาม
ฟ้าผ่า มาแกะเป็นเสือ แล้วลงอักขระเลขยันต์ตามนั้น
แล้วนำไปปลุกเสก ดังนั้นหากเราพูดถึงเสือที่รุนแรง
ตามสายของวัดประดู่ทรงธรรม ต้องเป็นเสือของ
วัดประดู่แก่นมะขาม นี่คือตามตำรา และในสมัยหลวงพ่อปาน
ท่านก็ทำด้วย แต่คนเพิ่งจะเห็นตอนที่บูรณะโบสถ์
ฝังอยู่ในหลุมลูกนิมิตลูกเอก เป็นเสือไม้แก่นมะขาม
หากจะถามว่าเสือที่แกะจากเขี้ยวเสือ กับเสือที่แกะจาก
แก่นมะขาม ถ้าเอาวิชาตามโบราณ แกะจากแก่นมะขาม
ถือเป็นอันดับ 1 ซึ่งไม้มะขามที่ท่านอาจารย์เอามาทำเสือ
เป็นไม้มะขามโปร่งฟ้า คือ กลวง ปัดตลอด คือ
ต้นมะขามขึ้นคู่ 2 ต้น แล้วมีลมผ่ากลาง ซึ่งต้องกลวงทั้งคู่
ที่ต้องใช้ไม้มะขามทำเสือ มันเป็นเคล็ดของคนโบราณ
เนื่องจากเสือมีอำนาจ ทำให้เกรงขาม
แต่สมัยก่อนหาไม้มะขามยาก และยังต้องถูกฟ้าผ่าอีกด้วย
ซึ่งไส้มันจะกลวงแต่ไม่มีแกน ซึ่งเป็นมะขามของสายปากคลองมะขามเฒ่า จึงกล้าที่พูดว่าเสือชุดนี้ไม่ใช่ตำราเดียว
แต่เป็นเสือที่ยำหลายตำรา มาอยู่ในตัวเดียวกัน
ซึ่งไม้มะขามชนิดนี้ ถือว่าเป็น “สูงสุด” ในเรื่องของอำนาจ
สายปากคลองมะขามเฒ่า คือ หลวงปู่ศุข ไม้มะขาม โปร่งฟ้า
ปัดตลอด ตรงกลางกลวง อันนี้ไม่มีในตำราเล่มไหน
ยกเว้น รัตนมาลาของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เท่านั้น
ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครพูดถึงเลย เนื่องจากไม่มีใครรู้
คัมภีร์ “รัตนมาลา” ทั้ง 8 เล่มของหลวงปู่ศุข อย่างจริงๆ จังๆ
คนที่สำเร็จคัมภีร์รัตนมาลาจะรู้ว่า “สุดยอด” ของคัมภีร์ที่ยก
ให้อันดับ 1 คือ ไม้มะขามโปร่งฟ้า ปัดตลอด ตรงกลางกลวง
ชั่วชีวิตท่านอาจารย์แขก เพียรหาไม้ชนิดนี้ จนมาได้ที่
จังหวัดกาญจนบุรี โดยตัวท่านอาจารย์ได้ทำการ “พลี”
ไม้มะขามด้วยตัวเอง (การแกะเสือใช้ไม้ตรง “แกน” สีดำ)
ซึ่งนำมาสร้างเป็นเสือได้เพียงไม่กี่ตัว
เสือรุ่นนี้ท่านอาจารย์แขกยังเจาะก้น อุดผง ผงที่อุดเอามา
จากหลายๆ ตำรา ซึ่งล้วนเกี่ยวกับเสือทั้งหมด
ที่ท่านอาจารย์แขกได้ไปเรียนมา เช่น ยาเสือของพม่า
(เกี่ยวกับอำนาจโดยตรง) เขี้ยวเสือกลวง นำมาบด
ลูกกรอกเสือโคร่ง ตะกรุดพญาสมิง ของพ่อท่านเขียว รุ่น 1-2
เมื่อตอนที่ท่านอาจารย์แขก ทำตะกรุดหนังเสือของพ่อท่านเขียว ได้เห็นคุณวิเศษของหนังรุ่น 1-2 แล้ว ซึ่งมีชื่อเรียกว่าพญาเสือนอนกิน ถือว่าสุดยอดเหมือนกัน ท่านอาจารย์จึง
เก็บหนังกับขนเอาไว้ แล้วเอาหนังกับขนทั้งหมดผสมลงไปด้วย
ซึ่งท่านอาจารย์แขกเรียกว่า “ซูเปอร์เสือ” คือ
ใช้ทั้งหนัง ทั้งขน ทั้งเขียว ลูกกรอกเสือโคร่ง และ
ยังมีผงพระสมเด็จของวัดบางขุนพรหม วัดระฆัง
วัดเกษไชโย ผงปิลันธ์ ผงชอล์กเขียนมือ มหาราช
ปถมัง ปัดตลอด ตรีนิสิงเห โภคทรัพย์ นางกวัก โสฬส
ผงมหาลาภของหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ผงของหลวงพ่อพล
วัดบางแซะ ผงของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์
ผงมหาปราบของหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ซุ้มกอ สารพัดผง
ก่อนที่จะลงมือแกะเป็นตัวเสือ ช่างที่จะแกะต้องมาให้
ท่านอาจารย์แขก “ลงยันต์” ที่มือของช่างแกะก่อน
ซึ่งช่างก็ต้องถือศีล 8 อีกด้วย
จากนั้นท่านอาจารย์แขก ได้หยิบเสือแกะออกมาจาก
กระเป๋าเสื้อ พร้อมกล่าวว่า ตัวท่านพกเสือแกะมานานมาก
แต่ไม่เคยให้ใครเห็น ส่วนเหตุผลที่ท่านนำเสือแกะมาให้บูชา เนื่องจากเสือจะเป็นสัตว์ประจำปี ซึ่งมันจะช่วยในเรื่องการชง
และยังเป็นเครื่องรางที่พกติดตัวได้ อีกทั้งการพุทธาภิเษกยังเป็น
“อภิมหา” ท่านอาจารย์แขกไปเรียนวิชาเสือกับใคร
ตัวท่านก็หิ้วเสือไปให้เขาเสก เป็นระยะเวลา 7 ปี
ท่านอาจารย์แขกยังได้กล่าวอีกด้วยว่า เสือมันเป็นสัตว์ที่แปลก
คนอยากเห็นเสือ แต่พอได้เห็นแล้วกลัว เป็นมหาอำนาจ
เสือนอนกินพ่อท่านเขียว อยู่เฉยๆ คนเอาเหยื่อมาให้
เสือตามวิชาพม่า แค่คนรู้ว่าเขาจะไปคนก็กลัวแล้ว
เสือมันมีกลิ่น กลิ่นเสือมันจะไปก่อนเลย ยาเสือพม่าคนพกติดตัว
แค่เขารู้ว่าเราจะไปเขาก็ไม่เอาแล้ว เหมือนสัตว์ที่ได้กลิ่นเสือ
ก็จะหนีก่อนเลย
ท่านอาจารย์แขกได้พูดถึงสรรพคุณในตำราเสือ เขาบอกให้หาไม้แก่นมะขามฟ้าผ่า แกะเป็นพญาเสือ ลงด้วยหัวใจย่อศีล
พุท ธะ สัง มิ ในตำราระบุแค่นี้ ซึ่งที่ท่านอาจารย์เรียนมามีเท่านี้
นอกนั้นเป็นเรื่องของปากต่อปาก ระหว่างศิษย์กับอาจารย์
เคล็ดวิธีการทำต้องบอกด้วยตัวเอง ซึ่งเสือของท่านอาจารย์แขก
คนที่เช่าไปจะไม่เห็นยันต์เลยสักตัวเดียว ที่เห็นจะเป็นแค่ขีดๆ
เท่านั้น บางคนถามว่าเป็นขนเสือหรือเปล่า ส่วนหนึ่งก็ใช่ขนเสือ
ส่วนหนึ่งเป็นการลงยันต์ แต่จะไม่บอกว่าลงยังไง
แต่คนที่นำไปใช้รับประกันว่าเห็นผล
ดังนั้น เสือชุดนี้ของท่านอาจารย์แขก จึงมีความเป็น “ที่สุด”
ของตำราวัดประดู่ เป็นเสือในตำราของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย
ผสมกับเสือใต้ ผสมกับเสือพม่า ผสมกับเสือลาว
ผสมกับทุกอย่างที่มีความเป็นที่สุด ส่วนพระเกจิฯ
ที่มาพุทธาภิเษกก็ไม่ธรรมดา อาจารย์ท่านใดสอนเสือให้
ท่านอาจารย์แขกก็หิ้วเสือไปให้ท่านเสก แม้กระทั่งเข้าไปเชียงตุง ท่านอาจารย์ก็ยังพกเสือไปให้เสก ไม่ว่าเราจะเกิดปีอะไร
ในรอบ 12 นักษัตร สามารถนำไปพกได้ ซึ่งจะเป็นตัวกัน
ได้เป็นอย่างดี ในเรื่องแกชงปี และยังช่วยเสริมอำนาจ
ราศี ในตัวเรา (มีคาถาบูชาเฉพาะกรณีพิเศษ กับเสือรุ่นนี้เท่านั้น)
ในวงการพระเครื่องไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย เราจะเห็นว่าไม่เคย
หยุดการสร้างเสือ แต่เสือที่สร้างมานั้นถูกต้องตามตำราหรือเปล่า และถ้าหากเป็นไม้แกะแบบนี้ ตัวหนึ่งก็ต้องไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท
และก็ไม่รู้ว่าจะดีหรือเปล่า
สุดท้ายท่านอาจารย์แขกได้ให้ “เคล็ด” ในการหาโชคลาภ
คือ เมื่อว่าคาถาแล้วเอามือ “ปาดปาก” ซ้ายขวา
ลักษณะเหมือนเสือที่กินแล้วก็ปาดปาก
รับประกันได้เลยว่าได้ตามนั้นทุกประการ
ส่วนเวลาที่เขาจะเข้าไปปล้น ก็จะว่าคาถาแล้วปาดปาก
จากนั้นก็เข้าปล้น ซึ่งปืนผาหน้าไม้จะยิงไม่ออก
แต่การปาดปากต้องอย่าให้ใครเห็น
เพราะคนอื่นจะรู้ว่าเราเล่นของ
เขาจะเอาของที่แรงกว่ามาเล่นเราคืน “เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า”
และไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เนื่องจากใจมันเหิมเกริม
บูชา 1,500 บาท
เลี่ยมกรอบกันน้ำ 1,700 บาท
โน้ตยินดีให้บริการคะ
สอบถามได้ที่
Line ID : @meetangsongkhla
หรือ โทร.089-4620910
Website : www.meetangsongkhla.com
#วัตถุมงคลอาจารย์แขก
#มันตระสยาม
#อาจารย์แขกรือเสาะ
#ร้านมีตังค์สาขาสงขลา
ติดตาม /ฮวงจุ้ย / ถาม-ตอบ / การใช้วัตถุมงคล /
พลังงานประจำปีเกิด / เคล็ดไม่ลับกับ อ.แขก
ได้ทางไลน์ ส่งข้อมูลถึงมือคุณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น