วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

พระพิชัยสงคราม


พระพิชัยสงคราม





มีความเชื่อกันว่าพระชัยสงคราม เป็นเครื่องรางของขลังลำดับต้นๆ ที่ผู้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์มีความต้องการ เนื่องจากมีอำนาจพุทธคุณทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี และยามคับขันก็จะช่วยให้หายตัวได้          แต่ราคาของพระชัยสงครามมีราคาค่อนข้างสูง องค์หนึ่งไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นบาท ซึ่งก็ไม่ยืนยันด้วยว่าเป็นพระแท้หรือพระเลียนพิมพ์   







ท่านอาจารย์แขกเดินทางไปทำธุระที่จังหวัดพิษณุโลก และได้เจอเพื่อนซึ่งเป็นเซียนพระชื่อดัง เซียนพระท่านนี้ได้เล่าให้ฟังว่ามีพระชัยสงครามอยู่จำนวนหนึ่ง ท่านอาจารย์แขกมีความสนใจจึงขอดูพระ ด้วยความชำนาญในเรื่องของการดูพระ เมื่อได้สัมผัสกับพระชัยสงคราม ท่านอาจารย์แขกรู้ได้ทันทีว่าเป็นพระแท้ จึงถามที่มาของพระชัยสงคราม ปรากฏว่าเป็นพระกรุที่ถูกบรรจุในเจดีย์ อายุนับร้อยปี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเจดีย์ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงสร้างไว้ เมื่อครั้งไปทำสงครามที่เมืองคังและประสบชัยชนะ (ในขณะนั้นพระองค์ยังทรงดำรงตำแหน่งวังหน้า) ท่านอาจารย์แขกจึงขอเช่ามาทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนเพียงแค่ 40 องค์เท่านั้นเอง

  พระชัยสงคราม คือ พระที่สมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว (พระมหาเถรคันฉ่อง) ทำการสร้างตามคัมภีร์มหาปัถมังของพม่า โดยไปหาเนื้อโลหะของวิเศษ คือ เนื้องั่ว (งั่ว ภาษาพม่า แปลว่าเหล็กไหล) เพื่อแจกให้กับแม่ทัพนายกอง ติดตัวขณะเดินทางไปทำสงครามที่เมืองคัง (อายุประมาณ 250 ปี) 

คนทั่วไปจะรู้จักเหล็กไหล เนื้อสุริยันราชา เหล็กไหลท้องปลาไหล จากนั้นจะไปเรียกแล้วนำมาหลอมรวมกันสร้างเป็นพระเครื่อง โดยปกติเราจะพบพระชัยสงคราม ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นช่วงในยุคหลังๆ หากเป็นยุคแรกๆ ขนาดขององค์พระมีขนาดเล็ก (ขนาดเท่ากันทุกองค์) จะมีความแตกต่างก็ตรงที่หน้าตาเท่านั้นเอง ท่านอาจารย์แขกได้อธิบายรายละเอียด พระชัยสงครามเป็นพระหล่อ จากนั้นนำมาตบแต่งด้วยมือ 

พระชัยสงคราม มีเรื่องเล่าขานจนกลายเป็นตำนาน คือ เป็นพระที่สมเด็จพระนเรศวร สร้างขึ้นมาเพื่อให้บรรดาเหล่าแม่ทัพนายกอง พกติดตัวตอนไปตีเมืองคัง ปรากฏว่าการทำศึกในครั้งนั้น พระองค์ทรงมีชัยชนะตีเมืองคังสำเร็จ เมื่อเสด็จกลับจังหวัดพิษณุโลก พระองค์ทรงสร้างเจดีย์เป็นอนุสรณ์ “เจดีย์แห่งชัยชนะสงคราม” พร้อมเรียกพระชัยสงครามทั้งหมดกลับคืน แล้วนำไปบรรจุลงไปในกรุ (คนสมัยก่อนจะไม่พกพระติดตัว ยกเว้นตอนออกไปรบทัพจับศึก) 

การที่จะนำพระมาบรรจุลงกรุ 1 ต้องได้รับชัยชนะ 2 มีชีวิตรอดกลับมา 

ดังนั้นอำนาจพุทธคุณของพระจึงเป็นที่ประจักษ์ เชื่อถือได้ เท่ากับเป็นการยืนยันพระทุกองค์ผ่านการใช้มาแล้ว ซึ่งการใช้พระก็ไม่ธรรมดา เนื่องจากการทำศึกสมัยก่อน มือต่อมือ ดาบต่อดาบ หอกต่อหอก ธนูต่อธนู รบกันแบบประชิดตัว หากไม่แน่จริงก็ต้องตายในสนามรบ ที่สำคัญคือชื่อพระชัยสงคราม แสดงถึงชัยชนะจากการทำศึกสงคราม 

พระชัยสงครามมีความแตกต่างกับพระยอดธง คือ พระยอดธงจะอยู่บนธง แต่พระชัยสงครามจะอยู่ติดตัว ถามว่าพระนเรศวรทรงใช้พระเครื่องหรือไม่ ท่านอาจารย์แขกได้อธิบายว่า พระมาลาเบี่ยงของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงมีพระยอดธงอยู่รอบหมวก และทรงพก “แก้วโปงคราม” ติดตัว ซึ่งเรียกกันว่า “ปวกสามสี” ซึ่งได้มาจากเมืองยอง ปัจจุบันยังหาไม่พบ แต่มีเขียนอยู่ในพงศาวดาร ท่านมีพระองค์นี้พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา 

อำนาจพุทธคุณของพระชัยสงคราม ดีครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นคงกระพันชาตรี ยาถาบรรดาศักดิ์ เงินทองโชคลาภ ทหารที่ไปรบกลับมาได้ยศถาบรรดาศักดิ์ ซึ่งในสนามพระเครื่องเช่าหากัน องค์ละไม่ต่ำกว่าครึ่งแสนบาท จึงเป็นโอกาสที่ดีของทุกคน ที่จะได้เช่าพระกรุเก่า “แท้ๆ” ซึ่งมีอำนาจพุทธคุณเต็มเปี่ยม แต่สนนราคาองค์เพียงไม่กี่พันบาท 

สมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ กับ “บทพาหุง” มีความเกี่ยวพันกันอย่างไร?

ท่านอาจารย์แขกได้อธิบายว่า “บทพาหุงแต่งโดยพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว แต่งเพื่อให้กับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อให้นำมาใช้กับพระชัยสงคราม สมเด็จพระวันรัตน์ทรงสืบทอดตำรานี้มา โดยตัวท่านเอง (ท่านนั่งจนสำเร็จ) จากนั้นจึงทรงประพันธ์คาถา พาหุงมหากาฬ คือ ผู้เป็นใหญ่ที่สุด ในบทพาหุงมีด้วยกัน 8 บท คือ ชนะ 8 ทิศ ไม่ว่าจะไปที่ไหนชนะหมด คุณวิเศษแห่งชัยชนะ ว่าด้วยสิ่งที่พระพุทธเจ้าชนะ ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนทั่วไปชนะ เพราะฉะนั้นคุณของพระพุทธเจ้า คือ สูงสุด บทพาหุงมีไว้ใช้คู่กับพระชัยสงคราม และอาจารย์แขกเคยสร้างพระชัยสงครามมาแล้วด้วย แต่ต้องหลอมทิ้งเพราะใช้ไม่ได้ (เสกนาน 3 ปีก็ยังใช้ไม่ได้) 

ลักษณะที่ปรากฏของพระชัยสงคราม คนทั่วไปคิดว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้า แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วท่านเป็นตัวแทนของสมมุติเทพที่ใหญ่มาก เป็นตัวแทนของผู้ที่เป็นใหญ่ที่สุด แห่งการทำสงคราม ถามว่าเป็นวิชาของพม่าใช่หรือไม่ สมเด็จพระวันรัตน์ท่านเป็นพม่าโดยตรง และวิชานี้สำเร็จขึ้นมาด้วยตัวเอง    

สมัยก่อนว่าด้วยเรื่องมนุษย์ที่มีฤทธิ์เท่าเทียมกับเทวดา คนที่ศึกษาจะรู้ว่ามีเพียงคนเดียว คือ พระเจ้าชัยวรมันที่ 1 เมืองขอม พระองค์ทรงแต่งตัวหนังสือ “คนแรก” รู้ภาษานก รู้ภาษาสัตว์ รู้ภาษาเทวดา รู้ถึงสรรพสิ่งทุกอย่างในโลก พระเจ้าชัยวรมันที่ 1 คือ เทพแห่งสงคราม เทพแห่งชัยชนะ ท่านเป็นผู้ที่กำหนด นะ 108  ของโลก เขมรยุคทราวดีมีมาก่อนทุกสมัย ซึ่งยกย่องให้พระเจ้าชัยวรมันที่ 1 เป็นที่สุด ซึ่งถือว่าอาณาจักรขอมเฟื่องฟูที่สุด อาณามนุษย์ อาณาจักรสิ่งมีชีวิตเฟื่องฟู”

ท้ายที่สุดท่านอาจารย์แขกได้อธิบายสรุป คุณวิเศษอีกอย่างหนึ่งของบทพาหุง คือ เป็นสุดยอดในเรื่องคงกระพัน แคล้วคลาด และมีอยู่บทหนึ่ง คือ ทำให้หายตัวได้ ดังนั้นบรรดาเหล่าทหารหาญที่กำลังทำศึกสงคราม ยามคับขันก็จะหายตัวได้ ทำให้ได้รับชัยชนะในยามทำศึกสงคราม คนที่เล่นเรื่องไสยศาสตร์ลำดับต้นๆ จึงมีความต้องการพระชัยสงคราม


บูชา 3,500 บาท
แบบเลี่ยม 3,700 บาท
โน้ตยินดีให้บริการค่ะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

~©• จตุคามรามเทพ •©~ "รุ่นผ่าตะวัน โชติช่วง"

  ~©• จตุคามรามเทพ •©~ "รุ่นผ่าตะวัน โชติช่วง" ------------------------ ในศาสตร์ความเชื่อหลาย ๆแขนง เป็นช่วงเข้าสู่ยุคมืด เนื่อ...