วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
พระปิดตามหาอุตม์
อาจารย์แขกมักจะพูดเสมอ ในเวลานี้คนเราต้องหาเงินทอง เรื่องอื่นๆ อย่าไปยุ่งกับมัน เรื่องคงกระพันชาตรี เรื่องมหาอุตม์ พักไว้ก่อน เงินน่ะสำคัญสุด ไม่มีอะไรจะสำคัญเท่าเงินอีกแล้ว ด้วยเหตุนี้วัตถุมงคลของอาจารย์แขก จึงเน้นไปในทางเรื่องของเงินๆ ทองๆ
ส่วนวัตถุมงคล “พระปิดตามหาอุตม์” ชุดนี้ หากนำมาแขวนจะอุดเรื่องเงินๆ ทองๆ หรือเปล่า พระปิดตามหาอุตม์ตามตำราที่อาจารย์แขกสร้าง จะมีความโดดเด่นทางเรื่องคงกระพัน คือ ป้องกันตัว ลำดับต่อมา คือปิดเรื่องร้ายทั้งหมด ไม่ให้วิ่งเข้ามาหาเรา ทั้ง 9 ทวาร เพราะฉะนั้นพระปิดตามหาอุตม์ เน้นในเรื่องป้องกันตัว และปิดเรื่องร้าย ถามว่ามีความสำคัญมากมั้ย ตอบว่ามีความสำคัญมาก ในเมื่อเรามีเงินแล้วมีเรื่องร้ายเข้าหาเรา ถ้าเรามีเงินแล้วเพื่อนนินทาว่าร้าย ถ้าเรามีเงินแล้วเจ้านายไม่ชอบหน้า หรือถ้าเรามีเงิน แล้วขับรถไปชนจนเกิดความเสียหายใหญ่หลวง มันจะดีไปได้อย่างไร
การที่อาจารย์แขก สร้างพระปิดตามหาอุตม์ขึ้นมา เพื่อหวังผลแห่งการป้องกัน คุ้มกันดวงเราเอง เราจะสังเกตคนโบราณเขาจะให้แขวน ยันต์เมฆสิทธิ์ ยังสร้างเป็นปิดตามหาอุตม์ เพราะเมฆสิทธิ์นั้นมีพุทธคุณเรื่อง “หนุนดวง” ซึ่งคนทั่วไปไม่รู้ คิดว่าดีในทางคงกระพัน ซึ่งเราเคยได้ยินเรื่องคงกระพัน เกี่ยวกับพระปิดตาวัดอนงค์หรือไม่ คนที่แขวนพระปิดตาวัดอนงค์ ไม่เคยปรากฏว่าโดนยิงเลยแม้แต่คนเดียว หรือแม้แต่เรื่องของอุบัติเหตุ ก็ไม่เคยปรากฏอีกเช่นกัน เนื่องจากมีอำนาจพุทธคุณทาง “หนุนดวง” ทำให้ดวงดี เรื่องร้ายก็เลยไม่เจอ
พ่อลำดวนท่านอาจารย์ของอาจารย์แขก บอกว่าวิชาว่าด้วยปิดอบายภูมิทั้ง 9 ปิดเรื่องร้ายทั้ง 9 ประการ ที่จะวิ่งเข้าหาเรา จึงกลายเป็นว่าวิชานี้ไม่ใช่ “อุดเงิน” แต่มัน “อุด” เรื่องร้ายไม่เข้าหาเรา ซึ่งเราต้องดูว่ามหาอุตม์นั้น สร้างในรูปลักษณ์ใด เนื้ออะไร และที่สำคัญที่สุด “เสก” ด้วยคาถาบทไหน การวางจิตมันฟ้องเรื่องของคาถา แต่พระปิดตาสายวัดอนงค์ เขาเสกด้วยคาถา “สัมพุทเธ หงสาวดี” ต้นตำรับมาจากเมืองหงสาวดี พม่า คนที่นำมา คือ มหาเถรคันฉ่อง บทนี้จะว่าด้วยการ “แก้เคราะห์ทั้งหมด”
• แก้เคราะห์ • วิบากกรรม • ดวงตก
คนที่มีความสามารถในเรื่องการรดน้ำมนต์ ก่อนอื่นต้องว่าคาถา “สัมพุทเธ” ก่อน ซึ่งเป็นตัวถาคาที่แก้เคราะห์ แก้ดวง หนุนดวง เสริมดวง เคราะห์ไม่มี ดังนั้นเขาจึงนำเอา “สัมพุทเธ” มาสวดในระบบของ 9 ทวาร ยกตัวอย่างเช่น เราจะปิดปาก เขาจะมีคาถาว่าด้วยมือปิดปาก (คนอื่น) ไม่ให้ส่งผลมาถึงเรา ซึ่งปัจจุบันวิชานี้เริ่มสูญหาย เนื่องจากไม่มีการสอนมาอย่างถูกต้อง
ในเรื่องของอาจารย์ “รดน้ำมนต์” ซึ่งอาจารย์แขกท่านเชื่อมือ คือ อาจารย์ปืน วัดราชชะโด ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของปู่คอน วัดชัยพฤกษ์มาลา ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ และยังเป็นลูกศิษย์อาจารย์เภา สายวัดประดู่ทรงธรรม วัดป่าแก้ว จึงเป็นเหตุผลที่คนไปรดน้ำมนต์ กับอาจารย์ปืนแล้วเห็นผล เพราะอาจารย์ปืนว่าคาถา “สัมพุทเธ” แม้กระทั่งมหาภูษิต อาจารย์แขกยังแนะนำให้ว่าคาถาบทนี้ ตั้งแต่มหาภูษิตใช้คาถาสัมพุทเธ ปรากฏว่าคนที่ไปรดน้ำมนต์กับท่าน “ทุกคน” ดีหมด และที่สำคัญเอาพระปิดตาใส่ลงไปในขันน้ำมนต์ด้วย
พระปิดตามหาอุตม์ “ชุดนี้” เสกด้วยสัมพุทเธ หงสาวดี โดยท่านพ่อเขียว วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี เนื่องจากพ่อท่านเขียว เป็นเบอร์ 1 ในเรื่องของการรดน้ำมนต์เช่นกัน สมัยก่อนพ่อท่านเขียวเป็นหมอแก้เคราะห์ คนดวงไม่ดีไปหาท่าน ท่านก็จะคำนวณปีเกิด ตกเคราะห์อะไร แล้วท่านให้เตรียมของมา จากนั้นท่านก็สวดแก้เคราะห์ รดน้ำมนต์ ด้วยคาถาสัมพุทเธ และพ่อท่านเขียวยังบอกอีกด้วยว่า คาถาบทนี้จะให้ดีต้องทำพระปิดตาขึ้นมา ปิดทวารทั้ง 9 ซึ่งก็ตรงกับที่อาจารย์แขก ได้ไปเรียนกับพ่อลำดวน ซึ่งพ่อท่านเขียวยังบอกว่าอาจารย์คนนี้ “เก่ง”
ต้นตำรับของพระปิดตามหาอุตม์ เป็นของหลวงพ่อทับ วัดอนงค์ โดยถอดพิมพ์พระมาจากองค์จริง 400,000 บาท หลังเบี้ย เอาเคล็ดคำว่า “เบี้ย” คือ มีเงิน ซึ่งเท่ากับว่าอุดเรื่องร้ายทั้ง 9 ไม่ใช่อุดเรื่องเงิน แต่กลับช่วยเสริมเรื่องเงิน ป้องกันเรื่องร้าย หนุนดวง คนที่รู้ตัวว่า “ดวงตก” ควรที่จะมีไว้ป้องกันตัว โดยอาจารย์แขกท่านได้ย้ำ “เป็นพระที่ไม่ควรห่างตัวเลย”
สำหรับเนื้อพระปิดตามหาอุตม์ จะมีความแตกต่างกับเนื้ออื่น สังเกตว่าจะออกสีม่วง เนื่องจากใส่เมฆสิทธิ์ ซึ่งเป็นของเก่า วัดอนงค์ (ลูกอมสมัยก่อน) ซึ่งสมัยนั้นราคาไม่แพง เม็ดละ 7-8 หมื่นบาท แต่ใช้หลายเม็ดก็ถือว่าแพงอยู่ (ใส่จำนวนเป็นร้อยเม็ด) ซึ่งการ “ปลุกเสก” พระปิดตามหาอุตม์ ยังต้องใช้ฤกษ์ “ปลอดห่วง” คือ ต้องไม่โดนห่วงอะไรเลย
ในวิชาตำราห่วง มันจะว่าด้วยเกี่ยวสัมพันธ์ กับเรื่องอื่นที่เป็นทุกข์ ทำให้คนโบราณเลือกเอาที่ปลอดห่วง คือ ไม่มีทุกข์ ไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว ด้วยความที่มันอยู่ในฤกษ์ แล้วเนื้อพระเหลือ จึงนำไปเทเป็นพระหลวงปู่ทวด ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า พระปิดตามหาอุตม์ เป็นพระที่เทตามฤกษ์ จากจำนวนพระ 10 พิมพ์ ส่วนอีกพิมพ์ที่เทตามฤกษ์ คือ พระปิดตามหาลาภ แต่เนื้อเมฆสิทธิ์น้อยกว่า
ในเรื่องของ “ฤกษ์” ในการสร้างพระปิดตา มีเพียงแค่ 2 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น (หนึ่งชั่วยาม) ซึ่งถือเป็นฤกษ์ปลอดห่วงทั้งหมด ซึ่งพระปิดตามหาอุตม์ “ชุดนี้” มีจำนวนน้อยมาก
ท่านอาจารย์แขกได้ให้ความรู้ท่านผู้อ่าน หากได้พระปิดตามหาอุตม์ไปบูชา ก็ไม่ต้องไปตามหาพระปิดตา วัดอนงค์ อีกแล้ว เนื่องจากท่านอาจจะไม่ได้พระแท้ และพระปิดตามหาอุตม์ชุดนี้ นอกจากมวลสารจะเป็นเนื้อเมฆสิทธิ์แล้ว ยังผสม “ชิน” ลงไปด้วย
ในวิชาการผสมเนื้อเมฆสิทธิ์ เขาก็ใส่ “ชิน” ลงไปด้วย แต่ใส่จำนวนน้อย เนื่องจากสมัยก่อนเนื้อชินหายากมาก แต่พระปิดตามหาอุตม์ชุดนี้ ใส่ชินในปริมาณมาก (วิธีการสร้างเนื้อเมฆสิทธิ์ คือ ใส่ชิน เนื้อเมฆสิทธิ์เกิดจากเนื้อ 5 อย่าง ซึ่งต้องมีเนื้อชินด้วย)
สำหรับท่านที่ชอบพระหนุนดวง ชอบกะลาราหู ให้นำพระปิดตามหาอุตม์ไปใส่คู่กัน ซึ่งราหูก็ช่วยหนุนดวง เสริมดวง โดยธรรมชาติของยันต์ แต่พระปิดตามหาอุตม์ หนุนดวง เสริมดวง โดยธรรมชาติของเนื้อพระ จึงกล่าวได้ว่าพระปิดมหาอุตม์ เป็นวัตถุมงคลที่คนชอบเรื่องหนุนดวง คนที่กลัวดวงตัวเองตก จะต้องมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง...
ราหูค้นทรัพย์
สิ่งหนึ่งซึ่งท่านอาจารย์แขก มักจะให้คำแนะนำอยู่เสมอ คือ การเดินทางไปไหนมาไหน ควรจะ “พก” วัตถุมงคลที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ไปด้วย ซึ่งการใช้วัตถุมงคลในแต่ละครั้งนั้น ตัวท่านยังต้องมีการสลับสับเปลี่ยน ไม่ได้ใช้อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นประจำ โดยดูว่าในวันนั้นต้องไปติดต่อเรื่องอะไร ซึ่งจะต้องเลือกวัตถุมงคลให้ตรงประเภทกับชนิดของงาน
วัตถุมงคล “ราหูค้นทรัพย์” เป็นวัตถุมงคล ที่ท่านอาจารย์แขกสร้างมานานแล้ว และผู้ที่ออกแบบการสร้าง คือ คุณอัฐพล คำวงษ์ (บุคคล VIP นิตยสารมันสตระสยาม) เป็นราหูเนื้อชินวัชระธาตุ เสกด้วยวิชาราหูค้นทรัพย์ คือ หาเงิน เสกด้วยวิชาปราบเมือง ราหูรับทรัพย์-เพิ่มทรัพย์ เสกด้วยราหูครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ เสกโดยพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ มหาภูษิต วัดพรุตู อาจารย์กฤษดา วัดปงสนุก และท่านอาจารย์แขก
ในเรื่องของการเสกที่วัดปงสนุก จังหวัดลำปาง ท่านอาจารย์แขก เล่าให้ฟังว่า มีการทดสอบพุทธคุณ โดยการตั้งวงรัมมี่ (เล่นกันสนุกๆ ในหมู่พรรคพวก 4 คน) ราคาที่เล่นกัน คือ 5 บาท 10 บาท 15 บาท ช่วงระยะเวลา 1 ชั่วโมงที่เล่น ท่านอาจารย์แขกได้เงินจากเพื่อนคนละหมื่นบาท ซึ่งท่านอาจารย์แขกพกติดตัวแค่ราหู เนื้อชินวัชระธาตุ องค์เดียวเท่านั้น (ถอดวัตถุมงคลอื่นๆ ออกหมด) ส่วนคนอื่นๆ พกเครื่องรางบนคอเป็นจำนวนมาก คนหนึ่งพกครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ องค์เมฆสิทธิ์ ฯลฯ ซึ่งเท่ากับเป็นการพิสูจน์ เครื่องรางของใครจะแน่กว่ากัน บทสรุป หลังจากเลิกเล่นรัมมี่ ทุกคนต่างขอราหูค้นทรัพย์ไปคนละองค์
ราหูค้นทรัพย์ “ความลับของราหูค้นทรัพย์ คือ คุณอัฐพล คำวงษ์ เป็นผู้ปั้นพิมพ์ ส่วนช่างที่หล่อก็ไม่ธรรมดา แต่วันนี้ยังไม่เปิดเผย เพราะการสร้างในเวลานั้นทำไว้ทั้งหมด 10 พิมพ์ๆ ละ 1,000 องค์ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่องค์ แต่สู้เสือไม่ได้ (เสือไปเร็วมาก) รองลงมา คือ ราหูค้นทรัพย์ ราคาเท่ากันทุกองค์ (ปกติหากเป็นเนื้อชินวัชระธาตุ ราคาจะต้องอยู่ที่ 2,000 บาทขึ้นไป) และท่านอาจารย์แขกได้กล่าวย้ำ เป็นวัตถุมงคลที่สมาชิกมันตระสยาม ควรจะต้องมีไว้ติดตัว เนื่องจากเป็นช่วงที่ราหู “ยก” ราศี เราจะเห็นว่าเศรษฐกิจช่วงนี้มันแย่มากๆ เลย แต่ราคาทองคำกลับสวนกระแส
สำหรับผู้ที่พกราหูที่ผ่านพิธีเสกดีๆ ช่วงนี้จะมีโชคใหญ่ จึงควรพกติดตัวตลอดเวลา ซึ่งเราจะมีราหูหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่ ราหูกลืนทรัพย์ (เหรียญ 2 หน้า) เนื้อนวโลหะ ราหูกะลา ราหูชิงดวง (มีองค์จตุคามรามเทพ) ฯลฯ แต่ราหูที่มีราคาถูกที่สุด คือ ราหูค้นทรัพย์ ซึ่งการสร้างเป็นแบบราหู 100 เปอร์เซ็นต์”
การสร้างวัตถุมงคลของท่านอาจารย์แขก ไม่ได้มุ่งเน้นไปในเรื่องของธุรกิจอย่างเต็มตัว ท่านจึงได้สร้างวัตถุมงคลที่ดีที่สุด และราคาต้องไม่แพงมากจนเกินไป ทุกคนต้องสามารถเช่าบูชาได้ แม้แต่กล่องบรรจุวัตถุมงคล ท่านอาจารย์แขกยังเลือก ผู้ผลิตที่มีคุณภาพ คือ วิสันต์พลาสติก (พระสมเด็จวัดระฆัง ปี 15 แม้กระทั่งกล่องบรรจุก็ยังซื้อหากัน ซึ่งผู้ผลิต คือ วิสันต์พลาสติก ราคาของกล่อง 5,000 บาท พระสมเด็จวัดระฆัง ปี 09 กล่องละ 5-6 พันบาท ซึ่งบางคนจะเอาพระปลอมไปใส่กล่อง ซึ่งจะทำให้ดูเหมือนพระแท้)
สำหรับท่านผู้อ่านมันตระสยาม ที่ต้องการมีวัตถุมงคลที่เป็น “ที่สุด” ของคำว่า “สุดยอด” ในเรื่องของการเรียกทรัพย์ รับโชคลาภ “ราหูค้นทรัพย์” คงจะเป็นคำตอบสุดท้าย
วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
พระพิชัยสงคราม
พระพิชัยสงคราม
มีความเชื่อกันว่าพระชัยสงคราม เป็นเครื่องรางของขลังลำดับต้นๆ ที่ผู้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์มีความต้องการ เนื่องจากมีอำนาจพุทธคุณทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี และยามคับขันก็จะช่วยให้หายตัวได้ แต่ราคาของพระชัยสงครามมีราคาค่อนข้างสูง องค์หนึ่งไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นบาท ซึ่งก็ไม่ยืนยันด้วยว่าเป็นพระแท้หรือพระเลียนพิมพ์
ท่านอาจารย์แขกเดินทางไปทำธุระที่จังหวัดพิษณุโลก และได้เจอเพื่อนซึ่งเป็นเซียนพระชื่อดัง เซียนพระท่านนี้ได้เล่าให้ฟังว่ามีพระชัยสงครามอยู่จำนวนหนึ่ง ท่านอาจารย์แขกมีความสนใจจึงขอดูพระ ด้วยความชำนาญในเรื่องของการดูพระ เมื่อได้สัมผัสกับพระชัยสงคราม ท่านอาจารย์แขกรู้ได้ทันทีว่าเป็นพระแท้ จึงถามที่มาของพระชัยสงคราม ปรากฏว่าเป็นพระกรุที่ถูกบรรจุในเจดีย์ อายุนับร้อยปี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเจดีย์ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงสร้างไว้ เมื่อครั้งไปทำสงครามที่เมืองคังและประสบชัยชนะ (ในขณะนั้นพระองค์ยังทรงดำรงตำแหน่งวังหน้า) ท่านอาจารย์แขกจึงขอเช่ามาทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนเพียงแค่ 40 องค์เท่านั้นเอง
พระชัยสงคราม คือ พระที่สมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว (พระมหาเถรคันฉ่อง) ทำการสร้างตามคัมภีร์มหาปัถมังของพม่า โดยไปหาเนื้อโลหะของวิเศษ คือ เนื้องั่ว (งั่ว ภาษาพม่า แปลว่าเหล็กไหล) เพื่อแจกให้กับแม่ทัพนายกอง ติดตัวขณะเดินทางไปทำสงครามที่เมืองคัง (อายุประมาณ 250 ปี)
คนทั่วไปจะรู้จักเหล็กไหล เนื้อสุริยันราชา เหล็กไหลท้องปลาไหล จากนั้นจะไปเรียกแล้วนำมาหลอมรวมกันสร้างเป็นพระเครื่อง โดยปกติเราจะพบพระชัยสงคราม ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นช่วงในยุคหลังๆ หากเป็นยุคแรกๆ ขนาดขององค์พระมีขนาดเล็ก (ขนาดเท่ากันทุกองค์) จะมีความแตกต่างก็ตรงที่หน้าตาเท่านั้นเอง ท่านอาจารย์แขกได้อธิบายรายละเอียด พระชัยสงครามเป็นพระหล่อ จากนั้นนำมาตบแต่งด้วยมือ
พระชัยสงคราม มีเรื่องเล่าขานจนกลายเป็นตำนาน คือ เป็นพระที่สมเด็จพระนเรศวร สร้างขึ้นมาเพื่อให้บรรดาเหล่าแม่ทัพนายกอง พกติดตัวตอนไปตีเมืองคัง ปรากฏว่าการทำศึกในครั้งนั้น พระองค์ทรงมีชัยชนะตีเมืองคังสำเร็จ เมื่อเสด็จกลับจังหวัดพิษณุโลก พระองค์ทรงสร้างเจดีย์เป็นอนุสรณ์ “เจดีย์แห่งชัยชนะสงคราม” พร้อมเรียกพระชัยสงครามทั้งหมดกลับคืน แล้วนำไปบรรจุลงไปในกรุ (คนสมัยก่อนจะไม่พกพระติดตัว ยกเว้นตอนออกไปรบทัพจับศึก)
การที่จะนำพระมาบรรจุลงกรุ 1 ต้องได้รับชัยชนะ 2 มีชีวิตรอดกลับมา
ดังนั้นอำนาจพุทธคุณของพระจึงเป็นที่ประจักษ์ เชื่อถือได้ เท่ากับเป็นการยืนยันพระทุกองค์ผ่านการใช้มาแล้ว ซึ่งการใช้พระก็ไม่ธรรมดา เนื่องจากการทำศึกสมัยก่อน มือต่อมือ ดาบต่อดาบ หอกต่อหอก ธนูต่อธนู รบกันแบบประชิดตัว หากไม่แน่จริงก็ต้องตายในสนามรบ ที่สำคัญคือชื่อพระชัยสงคราม แสดงถึงชัยชนะจากการทำศึกสงคราม
พระชัยสงครามมีความแตกต่างกับพระยอดธง คือ พระยอดธงจะอยู่บนธง แต่พระชัยสงครามจะอยู่ติดตัว ถามว่าพระนเรศวรทรงใช้พระเครื่องหรือไม่ ท่านอาจารย์แขกได้อธิบายว่า พระมาลาเบี่ยงของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงมีพระยอดธงอยู่รอบหมวก และทรงพก “แก้วโปงคราม” ติดตัว ซึ่งเรียกกันว่า “ปวกสามสี” ซึ่งได้มาจากเมืองยอง ปัจจุบันยังหาไม่พบ แต่มีเขียนอยู่ในพงศาวดาร ท่านมีพระองค์นี้พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา
อำนาจพุทธคุณของพระชัยสงคราม ดีครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นคงกระพันชาตรี ยาถาบรรดาศักดิ์ เงินทองโชคลาภ ทหารที่ไปรบกลับมาได้ยศถาบรรดาศักดิ์ ซึ่งในสนามพระเครื่องเช่าหากัน องค์ละไม่ต่ำกว่าครึ่งแสนบาท จึงเป็นโอกาสที่ดีของทุกคน ที่จะได้เช่าพระกรุเก่า “แท้ๆ” ซึ่งมีอำนาจพุทธคุณเต็มเปี่ยม แต่สนนราคาองค์เพียงไม่กี่พันบาท
สมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ กับ “บทพาหุง” มีความเกี่ยวพันกันอย่างไร?
ท่านอาจารย์แขกได้อธิบายว่า “บทพาหุงแต่งโดยพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว แต่งเพื่อให้กับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อให้นำมาใช้กับพระชัยสงคราม สมเด็จพระวันรัตน์ทรงสืบทอดตำรานี้มา โดยตัวท่านเอง (ท่านนั่งจนสำเร็จ) จากนั้นจึงทรงประพันธ์คาถา พาหุงมหากาฬ คือ ผู้เป็นใหญ่ที่สุด ในบทพาหุงมีด้วยกัน 8 บท คือ ชนะ 8 ทิศ ไม่ว่าจะไปที่ไหนชนะหมด คุณวิเศษแห่งชัยชนะ ว่าด้วยสิ่งที่พระพุทธเจ้าชนะ ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนทั่วไปชนะ เพราะฉะนั้นคุณของพระพุทธเจ้า คือ สูงสุด บทพาหุงมีไว้ใช้คู่กับพระชัยสงคราม และอาจารย์แขกเคยสร้างพระชัยสงครามมาแล้วด้วย แต่ต้องหลอมทิ้งเพราะใช้ไม่ได้ (เสกนาน 3 ปีก็ยังใช้ไม่ได้)
ลักษณะที่ปรากฏของพระชัยสงคราม คนทั่วไปคิดว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้า แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วท่านเป็นตัวแทนของสมมุติเทพที่ใหญ่มาก เป็นตัวแทนของผู้ที่เป็นใหญ่ที่สุด แห่งการทำสงคราม ถามว่าเป็นวิชาของพม่าใช่หรือไม่ สมเด็จพระวันรัตน์ท่านเป็นพม่าโดยตรง และวิชานี้สำเร็จขึ้นมาด้วยตัวเอง
สมัยก่อนว่าด้วยเรื่องมนุษย์ที่มีฤทธิ์เท่าเทียมกับเทวดา คนที่ศึกษาจะรู้ว่ามีเพียงคนเดียว คือ พระเจ้าชัยวรมันที่ 1 เมืองขอม พระองค์ทรงแต่งตัวหนังสือ “คนแรก” รู้ภาษานก รู้ภาษาสัตว์ รู้ภาษาเทวดา รู้ถึงสรรพสิ่งทุกอย่างในโลก พระเจ้าชัยวรมันที่ 1 คือ เทพแห่งสงคราม เทพแห่งชัยชนะ ท่านเป็นผู้ที่กำหนด นะ 108 ของโลก เขมรยุคทราวดีมีมาก่อนทุกสมัย ซึ่งยกย่องให้พระเจ้าชัยวรมันที่ 1 เป็นที่สุด ซึ่งถือว่าอาณาจักรขอมเฟื่องฟูที่สุด อาณามนุษย์ อาณาจักรสิ่งมีชีวิตเฟื่องฟู”
ท้ายที่สุดท่านอาจารย์แขกได้อธิบายสรุป คุณวิเศษอีกอย่างหนึ่งของบทพาหุง คือ เป็นสุดยอดในเรื่องคงกระพัน แคล้วคลาด และมีอยู่บทหนึ่ง คือ ทำให้หายตัวได้ ดังนั้นบรรดาเหล่าทหารหาญที่กำลังทำศึกสงคราม ยามคับขันก็จะหายตัวได้ ทำให้ได้รับชัยชนะในยามทำศึกสงคราม คนที่เล่นเรื่องไสยศาสตร์ลำดับต้นๆ จึงมีความต้องการพระชัยสงคราม
บูชา 3,500 บาท
แบบเลี่ยม 3,700 บาท
โน้ตยินดีให้บริการค่ะ
วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ฮู้ 5 ผีนำวิญญาณ แบบประทับนิ้วมือ
ฮู้ 5 ผีนำวิญญาณ แบบประทับนิ้วมือ
ฮู้ 5 ผีนำวิญญาณ แบบประทับนิ้วมือ
-เป็นฮู้สุดยอดของเหมาซาน ทำยากมาก
และมีตราประทับ 5 ตรา คือ คุม 5 ธาตุของเหมาซาน
-แบบมีรอยนิ้วมือ คือ การทำสัญญาเลือดของเหมาซาน คือ อาจารย์แขกเป็นคนเชิญ 5 ผีมาในสถานที่นั้น
คุณสมบัติ
-ช่วยทุกเรื่องได้หมด ขอบุตร ค้าขาย ความมั่งคั่ง กลมเกลียว
อายุยืน แก้คุณไสย รักษาโรค กันเรื่องร้าย บังคับจิต ได้หมด
-ดูดพลังดี ผลักพลังร้าย เสริมพลัง ไม่มีวันแพ้
-พลังงานทั้ง 5 สาย ไม่ส่งผลร้ายต่อบ้านหลังนั้น
-ไว้ข้างหลังเจ้ามือหวย ข้าราชการ ทหาร ต้ารวจ จะไม่มีวันแพ้
-ดึงโชคลาภเข้ามา เพราะเป็นเหมาซานด้านมืด
-ฮู้เป็นรูปตารางไยแมงมุมฟ้าของเหมาซาน
ช่วยดักพลังงาน 5 ธาตุเข้าบ้านนั้นแบบสมบูรณ์
ช่วยดึงพลังงาน ทุกอย่างเข้าหาบ้าน
-ปรับพลังข้างในบ้าน แก้ไขให้เป็นพลังงานดี
ทำให้พลังงานชะตาเราสัมพันธ์กับชัยภูมิ
โดยจะดลใจให้คนใน บ้านปรับบ้านให้มีพลังงานดีเอง
แต่อาจจะใช้เวลา
- ถ้ามีคนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ในบ้าน ให้ตั้งให้เห็นเลย
จะเปลี่ยนใจให้เชื่อเอง
- กันขโมยเข้าบ้าน ท้าให้เข้าบ้านไม่ได้
- ฮู้ 5 ผี นำวิญญาณ จะแรงกว่า ฮู้ 5 ผี นำโชค 10 เท่า
- ฮู้ 5 ผี นำโชคไว้พกติดตัว ฮู้ 5 ผี น้าวิญญาณไว้ที่บ้าน
- ห้ามหาย ห้ามขาด ห้ามเผา
การพก
- สามารถพกติดตัวได้ แต่ไม่ควรพกบ่อย
- ถ้าพกติดตัวพลังทั้ง 5 ธาตุจะเข้าหาตัวอย่างรุนแรง
การติดตั้งในบ้าน
- ตั้งไว้สูงเท่าพระ สามารถตั้งบนหิ้งพระ
หรือหลังพระประธานได้ หรือจะตั้งไว้หลังโต๊ะท้างานก็ได้
- ถ้าเป็นไปได้ ควรแยกจากหิ้งพระ
ตั้งเป็นหิ้งเหมาซานตะหากเลยจะดีที่สุด
- ควรติดบ้านทุกหลัง และทุกโรงงาน
- ตั้งไว้ข้างหลังที่นั่งท้างาน จะเสริมตัวเอง ให้ไม่แพ้ใคร
- ย้ายบ้าน ย้ายไปด้วยได้ไม่เป็นไร
- ในกรณีที่ไม่มีหิ้ง ไม่มีกระถางธูป ให้ติดกิมฮวย (หางนกยูง)
คู่ที่กรอบรูปด้านข้างทั้งสอง และ ให้เปลี่ยนทุกปี
ในช่วงตรุษจีน โดยของเก่าให้ทิ้งหรือลอยน้ำ ห้ามเผาเด็ดขาด
- ไม่จำเป็นต้องไหว้ทุกวัน
- ไหว้ด้วยส้ม 5 ลูก น้ำชา 5 แก้ว ธูป 5 ดอก จะเพิ่มขนมจันอับ 1 จานด้วยก็ได้ เพราะ ส้ม คือ ความเป็น มงคล และขนมจันอับ
คือ 5 ธาตุสมบูรณ์
-ไหว้ด้วยอาหารเจอย่างเดียว ห้ามไหว้ด้วยข้าว
- สีของกรอบให้ใส่ตามปีเกิดของประธานบ้าน นับตามปฏิทินจีน
กุน ชวด ใส่กรอบ สีดำ
ขาล ฉลู ใส่กรอบ สีเหลือง
เถาะ มะโรง ใส่กรอบ สีเขียว
มะเส็ง มะเมีย ใส่กรอบ สีแดง
มะแม วอก ใส่กรอบ สีขาว
ระกา จอ ใส่กรอบ สีน้้าตาล
บูชา 3,000 บาท
ใส่กรอบ 3,600 บาท
โน้ตยินดีบริการค่ะ
ฮู้ 5 ผีนำวิญญาณ แบบประทับนิ้วมือ
-เป็นฮู้สุดยอดของเหมาซาน ทำยากมาก
และมีตราประทับ 5 ตรา คือ คุม 5 ธาตุของเหมาซาน
-แบบมีรอยนิ้วมือ คือ การทำสัญญาเลือดของเหมาซาน คือ อาจารย์แขกเป็นคนเชิญ 5 ผีมาในสถานที่นั้น
คุณสมบัติ
-ช่วยทุกเรื่องได้หมด ขอบุตร ค้าขาย ความมั่งคั่ง กลมเกลียว
อายุยืน แก้คุณไสย รักษาโรค กันเรื่องร้าย บังคับจิต ได้หมด
-ดูดพลังดี ผลักพลังร้าย เสริมพลัง ไม่มีวันแพ้
-พลังงานทั้ง 5 สาย ไม่ส่งผลร้ายต่อบ้านหลังนั้น
-ไว้ข้างหลังเจ้ามือหวย ข้าราชการ ทหาร ต้ารวจ จะไม่มีวันแพ้
-ดึงโชคลาภเข้ามา เพราะเป็นเหมาซานด้านมืด
-ฮู้เป็นรูปตารางไยแมงมุมฟ้าของเหมาซาน
ช่วยดักพลังงาน 5 ธาตุเข้าบ้านนั้นแบบสมบูรณ์
ช่วยดึงพลังงาน ทุกอย่างเข้าหาบ้าน
-ปรับพลังข้างในบ้าน แก้ไขให้เป็นพลังงานดี
ทำให้พลังงานชะตาเราสัมพันธ์กับชัยภูมิ
โดยจะดลใจให้คนใน บ้านปรับบ้านให้มีพลังงานดีเอง
แต่อาจจะใช้เวลา
- ถ้ามีคนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ในบ้าน ให้ตั้งให้เห็นเลย
จะเปลี่ยนใจให้เชื่อเอง
- กันขโมยเข้าบ้าน ท้าให้เข้าบ้านไม่ได้
- ฮู้ 5 ผี นำวิญญาณ จะแรงกว่า ฮู้ 5 ผี นำโชค 10 เท่า
- ฮู้ 5 ผี นำโชคไว้พกติดตัว ฮู้ 5 ผี น้าวิญญาณไว้ที่บ้าน
- ห้ามหาย ห้ามขาด ห้ามเผา
การพก
- สามารถพกติดตัวได้ แต่ไม่ควรพกบ่อย
- ถ้าพกติดตัวพลังทั้ง 5 ธาตุจะเข้าหาตัวอย่างรุนแรง
การติดตั้งในบ้าน
- ตั้งไว้สูงเท่าพระ สามารถตั้งบนหิ้งพระ
หรือหลังพระประธานได้ หรือจะตั้งไว้หลังโต๊ะท้างานก็ได้
- ถ้าเป็นไปได้ ควรแยกจากหิ้งพระ
ตั้งเป็นหิ้งเหมาซานตะหากเลยจะดีที่สุด
- ควรติดบ้านทุกหลัง และทุกโรงงาน
- ตั้งไว้ข้างหลังที่นั่งท้างาน จะเสริมตัวเอง ให้ไม่แพ้ใคร
- ย้ายบ้าน ย้ายไปด้วยได้ไม่เป็นไร
- ในกรณีที่ไม่มีหิ้ง ไม่มีกระถางธูป ให้ติดกิมฮวย (หางนกยูง)
คู่ที่กรอบรูปด้านข้างทั้งสอง และ ให้เปลี่ยนทุกปี
ในช่วงตรุษจีน โดยของเก่าให้ทิ้งหรือลอยน้ำ ห้ามเผาเด็ดขาด
- ไม่จำเป็นต้องไหว้ทุกวัน
- ไหว้ด้วยส้ม 5 ลูก น้ำชา 5 แก้ว ธูป 5 ดอก จะเพิ่มขนมจันอับ 1 จานด้วยก็ได้ เพราะ ส้ม คือ ความเป็น มงคล และขนมจันอับ
คือ 5 ธาตุสมบูรณ์
-ไหว้ด้วยอาหารเจอย่างเดียว ห้ามไหว้ด้วยข้าว
- สีของกรอบให้ใส่ตามปีเกิดของประธานบ้าน นับตามปฏิทินจีน
กุน ชวด ใส่กรอบ สีดำ
ขาล ฉลู ใส่กรอบ สีเหลือง
เถาะ มะโรง ใส่กรอบ สีเขียว
มะเส็ง มะเมีย ใส่กรอบ สีแดง
มะแม วอก ใส่กรอบ สีขาว
ระกา จอ ใส่กรอบ สีน้้าตาล
บูชา 3,000 บาท
ใส่กรอบ 3,600 บาท
โน้ตยินดีบริการค่ะ
ฮู้อิม - ฮู้เอี๊ยง
ฮู้อิม - ฮู้เอี๊ยง
ฮู้อิม - ฮู้เอี๊ยง
-ฮู้คุมพลังงาน ปรับพลังงานชี่ภายในร่างกาย
นำมาบังคับพลังงานและเสริมพลังงานในตัวเรา
-ฮู้ที่มีความสำคัญมากกับการทำแซกี่บ้าน
เพราะหากจะทำแซกี่บ้าน จำเป็นมากที่ต้องมีฮู้อิม หรือ ฮู้เอี๊ยง
-พกติดตัวเราไว้ เพื่อให้อิม-เอี๊ยงในตัวสมบูรณ์
"มนุษย์เราปกติ การจะทำเรื่องหนึ่งเรื่องใด
ให้ได้ดีอยู่ตลอดเวลา
มักจะเป็นไปไม่ได้
เหตุผลเพราะพลังงานในตัวเราไม่เสถียร
แต่ถ้าหากพกฮู้นี้ติดตัวไว้
จะส่งผลทำให้พลังงานในตัวเสถียร
อยู่เกือบตลอดเวลา"
วิธีการใช้
-ต้องทราบดิถีตัวเราเองก่อน หากทราบแล้ว ให้พกตามธาตุดิถีพลังงานของตัวเองเท่านั้น
-ใช้สำหรับพกติดตัวเท่านั้น
ฮู้เอี๊ยง (สีขาว) เหมาะสำหรับบุคคลที่มีดิถีเอี๊ยง
ฮู้อิม (สีดำ) เหมาะสำหรับบุคคลที่มีดิถีอิม
บูชาเลี่ยมกรอบพก 1,200 บาท
สมาชิกท่านใดที่ยังไม่ทราบดิถีธาตุตัวเอง
ว่าเป็นพลังงานอิมหรือเอี๊ยง
ทักเข้ามาสอบถามได้นะคะ
โน้ตยินดีให้บริการคะ
ฮู้ไท้ส่วย ประจำปี 2561
ฮู้ไท้ส่วย ประจำปี 2561
เทพเจ้าไท้ส่วยประจำปี 2561 คือ เกียงบู๊ไต่เจียงกุง
ไท้ส่วยประจำปี ไม่ใช่พกแค่สำหรับคนชงเท่านั้น
คนโบราณสมัยก่อนจะให้ความสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่
1.ส่งเจ้าเตาขึ้นสวรรค์
2.ไหว้รับไฉ่ซิงเอี๊ยประจำปี
3.ไหว้ไท้ส่วยประจำปี
-ไท้ส่วยประจำปี สามารถไหว้ได้ทุกคน ส่งผลดีกับทุกคน
และไฉ่ซิงเอี๊ย มักสนิทตามทิศทางพลังงานไท้ส่วยปีในปีนั้นๆ
-ไท้ส่วย ประจำปี 2561 ปีจอดิน ควรค่าแก่การไหว้
และพกติดตัวไว้มากที่สุด เหตุผลคือ สรรพสิ่งกำเนิดจากดิน
คืนสู่ดิน ปีจอดิน วงรอบนี้เป็นปีที่แข็งมาก
ดินแข็งพร้อมก่อเกิดทุกสรรพสิ่ง
เทพไฉ่ซิงเอี๊ยและเทพไท้ส่วยปีนี้จะขี้เหนียว
ให้อะไรแบบยากๆ ดังนั้น อาจารย์ได้แก้ปัญหาให้กับสมาชิก
โดยทำฮู้ไท้ส่วยประจำปีนี้ให้ทุกคนควรไหว้หรือพกติดตัว
พุทธคุณ : ช่วยเสริมดวงทุกเรื่องในชีวิต ทั้งโชคลาภ สุขภาพ
การงาน และเรื่องอื่นๆ หากเรามีพลังงานเดียวกับไท้ส่วย
จะทำให้เจอแต่เรื่องๆ ดี ไม่เจอเรื่องร้าย และ ได้โชคดีจาก
พลังงานไท้ส่วยปีที่เอามาให้โชคยาก ให้โทษรุนแรง ยามจะให้
โชคลาภก็ขี้เหนียวมาก เราจึงต้องทำให้เป็นดุจเดียวเหมือนเป็น
ลูกหลาน หนึ่งเดียวกับไท้ส่วยปีนี้ จึงจะทำให้ได้รับโชคได้
และ ปลอดภัยจากพลังงานร้ายได้
-เด็กตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ใช้ได้ เผาแทนลูกหลานได้
ฮู้ชุดนี้ประกอบด้วย 4 อย่าง ได้แก่
1.ฮู้ไท้ส่วย ปี 61 (ผ้า) : เทพเจ้าไท้ส่วยประจำปี 2561
คือ เกียงบู๊ไต่เจียงกุง
2.ฮู้ เรียกโชคลาภ (กระดาษ) : ว่าด้วยเรื่อง
สามวิญญาณจิตของเทพโชคลาภปีนี้ กับ คนในบ้าน
3.ฮู้เทพบูชา (กระดาษ) : ในฮู้ที่มีรูปกงจักร
เป็นวิชาชั้นสูงของเหมาซาน ที่ทำให้ดวงเราสัมพันธ์กับดาวบนฟ้า
จะมีความสัมพันธ์ กับฮู้ไท้ส่วย ปี 61 (ผ้า)
4.ฮู้เทพประทานทรัพย์ (กระดาษ)
เผาเพื่อให้เทพนั้นๆ หรือเทพที่บูชา ประทานทรัพย์หรืออวยพรให้เรา
สถานที่ไหว้
อาจารย์แขก แนะนำ หากสมาชิกไปได้แนะนำให้ไปไหว้ที่
ศาลเจ้าทับทิม ถนนท้ายบ้าน จังหวัดสมุทรปราการ
เนื่องจากเป็นเทพดาวที่ตรงกับปีนี้มากที่สุด
หรือ ศาลเจ้าเจ้าแม่กวนอิม เลือกที่เป็นศาลเจ้าเก่าแก่
เพราะการสร้างจะดูตามตำแหน่งกลุ่มดาว
และ หากอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่มีศาลเจ้า
แนะนำให้ไหว้ที่ฮู้เหมาซานที่บ้านได้เลย
ขั้นตอนไหว้
1.นำฮู้ทั้ง 4 ใบ นำไปไหว้ที่ศาลเจ้า
ได้ทุกวันโดยไม่คำนึงว่าวันนี้เป็นวันปีนักษัตรอะไร
2.นำฮู้ทั้ง 4 ใบ ถือไว้ในมือ และถือธูปที่จุดแล้ว
ไว้บนฮู้กระดาษทั้งหมด
เดินไหว้ปักธูปตามตำแหน่งในศาลเจ้าในครบ
3.นำฮู้เทพบูชา เผาที่ศาลเจ้านั้น เพื่อให้ฮู้ไท้ส่วยประจำปี
มีพลังงานบวกกับเจ้าแม่ทับทิมด้วย
(เจ้าแม่ทับทิม เป็นเทพน้ำ พลังงานปีดินแข็งเจอน้ำ ทำให้ได้โชค)
4.หลังจากนั้นกลับมาที่บ้าน พร้อมฮู้ที่เหลือ 3 ใบ
ลำดับแรก นำฮู้เรียกโชคลาภ
เผาที่ประตูทางเข้าบ้าน ระยะจากประตูไม่เกิน 5 ก้าว
รอให้ไหม้หมดก่อน แล้วเดินเข้าบ้าน
ลำดับต่อไป เดินเข้าบ้าน ถือฮู้เทพประทานทรัพย์ + ฮู้ไท้ส่วย คู่กันพร้อมจุดธูป 3 ดอก ไหว้ที่หิ้งพระหรือตี่จู้เอี๊ยะ
แล้วขอพรขอให้ปีนี้ไท้ส่วย
(เกียงบู๊ไต่เจียงกุง) จงคุ้มครอง
ดวงชะตาข้าพเจ้า นำมาซึ่ง...........(ขออธิษฐานตามที่ต้องการ)
จากนั้นปักธูป ไม่ต้องรอให้ธูปหมด
นำฮู้เทพประทานทรัพย์ ไปเผาในกระถางธูป แล้วนำฮู้ไท้ส่วย
พับพกติดตัวไว้ เป็นเวลา 1 ปี
5.พอครบ 1 ปี กลางเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 นำฮู้เทพประทานทรัพย์ ไว้ที่หิ้งพระหรือตี่จู้เอี๊ยะ ไว้ขอบคุณ
ไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิต เพราะเทพได้ช่วยเหลือเราเป็นเวลา 1 ปีแล้ว
หากถือฮู้ 4 ใบนี้ ไปไหว้ขอที่ศาลเจ้าไหน
เทพจะไม่ปฏิเสธในเรื่องที่เราขอ
เนื่องจากเป็นฮู้ที่บรมาจารย์ทำสัญญากับ 3 ภพ
ว่า ถ้าเห็นฮู้นี้และตราสัญลักษณ์
สำนักนี้ ขอท่านอย่าได้ปฏิเสธคำอ้อนวอนนั้น
จำนวน 500 ชุด
ชุดละ 1,000 บาท
(ฮู้กระดาษ 3 ใบ + ฮู้ไท้ส่วย 1 ผืน)
โน้ตยินดีให้บริการค่ะ
สอบถามได้ทางไลน์ Line Id : @meetangsongkhla
โทร 089-462-0910
เทพเจ้าไท้ส่วยประจำปี 2561 คือ เกียงบู๊ไต่เจียงกุง
ไท้ส่วยประจำปี ไม่ใช่พกแค่สำหรับคนชงเท่านั้น
คนโบราณสมัยก่อนจะให้ความสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่
1.ส่งเจ้าเตาขึ้นสวรรค์
2.ไหว้รับไฉ่ซิงเอี๊ยประจำปี
3.ไหว้ไท้ส่วยประจำปี
-ไท้ส่วยประจำปี สามารถไหว้ได้ทุกคน ส่งผลดีกับทุกคน
และไฉ่ซิงเอี๊ย มักสนิทตามทิศทางพลังงานไท้ส่วยปีในปีนั้นๆ
-ไท้ส่วย ประจำปี 2561 ปีจอดิน ควรค่าแก่การไหว้
และพกติดตัวไว้มากที่สุด เหตุผลคือ สรรพสิ่งกำเนิดจากดิน
คืนสู่ดิน ปีจอดิน วงรอบนี้เป็นปีที่แข็งมาก
ดินแข็งพร้อมก่อเกิดทุกสรรพสิ่ง
เทพไฉ่ซิงเอี๊ยและเทพไท้ส่วยปีนี้จะขี้เหนียว
ให้อะไรแบบยากๆ ดังนั้น อาจารย์ได้แก้ปัญหาให้กับสมาชิก
โดยทำฮู้ไท้ส่วยประจำปีนี้ให้ทุกคนควรไหว้หรือพกติดตัว
พุทธคุณ : ช่วยเสริมดวงทุกเรื่องในชีวิต ทั้งโชคลาภ สุขภาพ
การงาน และเรื่องอื่นๆ หากเรามีพลังงานเดียวกับไท้ส่วย
จะทำให้เจอแต่เรื่องๆ ดี ไม่เจอเรื่องร้าย และ ได้โชคดีจาก
พลังงานไท้ส่วยปีที่เอามาให้โชคยาก ให้โทษรุนแรง ยามจะให้
โชคลาภก็ขี้เหนียวมาก เราจึงต้องทำให้เป็นดุจเดียวเหมือนเป็น
ลูกหลาน หนึ่งเดียวกับไท้ส่วยปีนี้ จึงจะทำให้ได้รับโชคได้
และ ปลอดภัยจากพลังงานร้ายได้
-เด็กตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ใช้ได้ เผาแทนลูกหลานได้
ฮู้ชุดนี้ประกอบด้วย 4 อย่าง ได้แก่
1.ฮู้ไท้ส่วย ปี 61 (ผ้า) : เทพเจ้าไท้ส่วยประจำปี 2561
คือ เกียงบู๊ไต่เจียงกุง
2.ฮู้ เรียกโชคลาภ (กระดาษ) : ว่าด้วยเรื่อง
สามวิญญาณจิตของเทพโชคลาภปีนี้ กับ คนในบ้าน
3.ฮู้เทพบูชา (กระดาษ) : ในฮู้ที่มีรูปกงจักร
เป็นวิชาชั้นสูงของเหมาซาน ที่ทำให้ดวงเราสัมพันธ์กับดาวบนฟ้า
จะมีความสัมพันธ์ กับฮู้ไท้ส่วย ปี 61 (ผ้า)
4.ฮู้เทพประทานทรัพย์ (กระดาษ)
เผาเพื่อให้เทพนั้นๆ หรือเทพที่บูชา ประทานทรัพย์หรืออวยพรให้เรา
สถานที่ไหว้
อาจารย์แขก แนะนำ หากสมาชิกไปได้แนะนำให้ไปไหว้ที่
ศาลเจ้าทับทิม ถนนท้ายบ้าน จังหวัดสมุทรปราการ
เนื่องจากเป็นเทพดาวที่ตรงกับปีนี้มากที่สุด
หรือ ศาลเจ้าเจ้าแม่กวนอิม เลือกที่เป็นศาลเจ้าเก่าแก่
เพราะการสร้างจะดูตามตำแหน่งกลุ่มดาว
และ หากอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่มีศาลเจ้า
แนะนำให้ไหว้ที่ฮู้เหมาซานที่บ้านได้เลย
ขั้นตอนไหว้
1.นำฮู้ทั้ง 4 ใบ นำไปไหว้ที่ศาลเจ้า
ได้ทุกวันโดยไม่คำนึงว่าวันนี้เป็นวันปีนักษัตรอะไร
2.นำฮู้ทั้ง 4 ใบ ถือไว้ในมือ และถือธูปที่จุดแล้ว
ไว้บนฮู้กระดาษทั้งหมด
เดินไหว้ปักธูปตามตำแหน่งในศาลเจ้าในครบ
3.นำฮู้เทพบูชา เผาที่ศาลเจ้านั้น เพื่อให้ฮู้ไท้ส่วยประจำปี
มีพลังงานบวกกับเจ้าแม่ทับทิมด้วย
(เจ้าแม่ทับทิม เป็นเทพน้ำ พลังงานปีดินแข็งเจอน้ำ ทำให้ได้โชค)
4.หลังจากนั้นกลับมาที่บ้าน พร้อมฮู้ที่เหลือ 3 ใบ
ลำดับแรก นำฮู้เรียกโชคลาภ
เผาที่ประตูทางเข้าบ้าน ระยะจากประตูไม่เกิน 5 ก้าว
รอให้ไหม้หมดก่อน แล้วเดินเข้าบ้าน
ลำดับต่อไป เดินเข้าบ้าน ถือฮู้เทพประทานทรัพย์ + ฮู้ไท้ส่วย คู่กันพร้อมจุดธูป 3 ดอก ไหว้ที่หิ้งพระหรือตี่จู้เอี๊ยะ
แล้วขอพรขอให้ปีนี้ไท้ส่วย
(เกียงบู๊ไต่เจียงกุง) จงคุ้มครอง
ดวงชะตาข้าพเจ้า นำมาซึ่ง...........(ขออธิษฐานตามที่ต้องการ)
จากนั้นปักธูป ไม่ต้องรอให้ธูปหมด
นำฮู้เทพประทานทรัพย์ ไปเผาในกระถางธูป แล้วนำฮู้ไท้ส่วย
พับพกติดตัวไว้ เป็นเวลา 1 ปี
5.พอครบ 1 ปี กลางเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 นำฮู้เทพประทานทรัพย์ ไว้ที่หิ้งพระหรือตี่จู้เอี๊ยะ ไว้ขอบคุณ
ไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิต เพราะเทพได้ช่วยเหลือเราเป็นเวลา 1 ปีแล้ว
หากถือฮู้ 4 ใบนี้ ไปไหว้ขอที่ศาลเจ้าไหน
เทพจะไม่ปฏิเสธในเรื่องที่เราขอ
เนื่องจากเป็นฮู้ที่บรมาจารย์ทำสัญญากับ 3 ภพ
ว่า ถ้าเห็นฮู้นี้และตราสัญลักษณ์
สำนักนี้ ขอท่านอย่าได้ปฏิเสธคำอ้อนวอนนั้น
จำนวน 500 ชุด
ชุดละ 1,000 บาท
(ฮู้กระดาษ 3 ใบ + ฮู้ไท้ส่วย 1 ผืน)
โน้ตยินดีให้บริการค่ะ
สอบถามได้ทางไลน์ Line Id : @meetangsongkhla
โทร 089-462-0910
วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
มัจฉาเทวา
🐠มัจฉาเทวา🐠
-เนื้อนวะโลหะมหาชนวน
เป็นเนื้อเดียวกับพ่อขุนช้างเจ้าทรัพย์
-ปลุกเสก โดย พระมหาภูษิต วัดพรุตู /
พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ / อ.แขก รือเสาะ
-วิชามัจฉาเทวาเป็นวิชาของพ่อท่านเขียว
วัดห้วยเงาะ ท่านได้รับตกทอด
มาหลายชั่วรุ่นแล้ว
และได้คัดลอกวิชามาจากหลวงปู่ดำ วัดนางโอ
จังหวัดปัตตานี (อาจารย์ของพ่อท่านเขียว)
ซึ่งในตำราเล่มนี้ได้คัดลอกมาจาก
หลวงพ่อสีพุฒ วัดมะเดื่อทอง ด้วย
- เกจิอาจารย์ที่สร้างมัจฉาเทวาแบบโด่งดัง
มีชื่อระดับประเทศ คือ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
เหตุผลที่บูรพาจารย์นิยมปลากัด เพราะปลากัด
เป็นยอดแห่งนักสู้ ใจสู้ไม่ถอย ความอดทนสูง
และปลากัดยังอยู่ได้ในน้ำที่ไหลเชี่ยว ซึ่งปลาปกติ
จะอยู่ไม่ได้ แต่ปลากัดจะหาความหยุดนิ่งของน้ำ
ที่ไหลเชี่ยวได้ เป็นสัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอดสูง
🔸คำว่า “มัจฉาเทวา” ผูกด้วยหัวใจของพญามัจฉาทั้งหมด รวมคาถามัจฉาเทวาเกี่ยวกับวิชาปลา
ในตำรามนต์จินดามณีทั้งหมดได้แก่
- คาถานางเงือก ว่าด้วยเรื่องเสน่ห์เมตตามหานิยม
- คาถาปลาช่อน:ในตำนานโบราณมีปลาช่อนนอน
อยู่บนเลนที่เป็นถนน กำลังจะตาย
ปลาช่อนได้ว่าคาถาบนหนึ่ง รู้ถึงพระอินทร์
ท่านถึงมองลงมาเห็นปลาช่อนน่าเวทนาจะตาย
ท่านจึงเสกฝนให้ตก ปลาช่อนจึงเลื้อยไปตาม
ทางฝนจึงได้รอด คาถาบทนี้จึงเชื่อว่าเอาไว้เรียกฝน
ภาวนาไว้ยามคับขันจะรอดดังนั้นหากเรา
พกปลากัด ตัวเรากำลังจะแย่จะไม่รอดแล้ว
ก็รอดพ้นอุปสรรคได้
-หัวใจปลาตะเพียน : สมัยก่อนเด็กที่เกิดมา
เค้าจะให้จ้องปลาตะเพียน
ปลาตะเพียนเป็นปลาน้ำจืด สมัยพุทธกาล
มีพญาปลาตะเพียน (ตะเพียนเงินและตะเพียนทอง)
1 คู่ทั้งตัวผู้และตัวเมีย ได้ไปเจอชาวนาที่เป็นคนใจบุญ
แต่ทำนาเท่าไหร่ก็ไม่รวย เค้าได้นำรำข้าวไป
โปรยให้ปลาตะเพียนคู่นี้กินตลอดเวลา
จนปลาตะเพียนได้สลัดเกล็ดเงินเกล็ดทอง
ให้เอาไปขายชาวนาจึงได้รวยขึ้นมา
เปรียบเสมือนได้ความร่ำรวยจากปลา
วิชาที่ลงปลาตะเพียน คือ หัวใจพระแม่โพสพ
เพราะในตำนานปลาตะเพียนอยู่ได้เพราะรำข้าวของ
แม่โพสพ เปรียบเสมือนหากเราพกปลานี้
ก็จะมีเงินทองติดตัวอยู่ตลอดเวลา
-หัวใจปลาวาฬ เป็นคาถากรามปลาวาฬ
เป็นวิชาการเคี่ยวสีผึ้งของคนยาวีโบราณ
เรื่องมหาเสน่ห์แบบรุนแรง
-หัวใจปลาไหลเผือก ลักษณะของปลาไหลจะรื่น
เปรียบเสมือนจะทำอะไรจะราบรื่นตลอดเวลา
🔸ปลากัดมีคุณวิเศษในตัวสูงมาก
พุทธคุณ : เสน่ห์แบบรุนแรง เมตตามหานิยม
ขจัดปัญหาอุปสรรค คงกระพัน
หากนำมาบูชาติดตัว จะได้ความเป็นเมตตามหานิยม
🔸วิธีบูชา
-พกติดตัวห้อยคอได้ หรือ ทำเป็นพวงกุญแจได้
🌈บูชา
ตัวเล็ก 700 บาท
ตัวใหญ่ 1,500 บาท
-เนื้อนวะโลหะมหาชนวน
เป็นเนื้อเดียวกับพ่อขุนช้างเจ้าทรัพย์
-ปลุกเสก โดย พระมหาภูษิต วัดพรุตู /
พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ / อ.แขก รือเสาะ
-วิชามัจฉาเทวาเป็นวิชาของพ่อท่านเขียว
วัดห้วยเงาะ ท่านได้รับตกทอด
มาหลายชั่วรุ่นแล้ว
และได้คัดลอกวิชามาจากหลวงปู่ดำ วัดนางโอ
จังหวัดปัตตานี (อาจารย์ของพ่อท่านเขียว)
ซึ่งในตำราเล่มนี้ได้คัดลอกมาจาก
หลวงพ่อสีพุฒ วัดมะเดื่อทอง ด้วย
- เกจิอาจารย์ที่สร้างมัจฉาเทวาแบบโด่งดัง
มีชื่อระดับประเทศ คือ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
เหตุผลที่บูรพาจารย์นิยมปลากัด เพราะปลากัด
เป็นยอดแห่งนักสู้ ใจสู้ไม่ถอย ความอดทนสูง
และปลากัดยังอยู่ได้ในน้ำที่ไหลเชี่ยว ซึ่งปลาปกติ
จะอยู่ไม่ได้ แต่ปลากัดจะหาความหยุดนิ่งของน้ำ
ที่ไหลเชี่ยวได้ เป็นสัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอดสูง
🔸คำว่า “มัจฉาเทวา” ผูกด้วยหัวใจของพญามัจฉาทั้งหมด รวมคาถามัจฉาเทวาเกี่ยวกับวิชาปลา
ในตำรามนต์จินดามณีทั้งหมดได้แก่
- คาถานางเงือก ว่าด้วยเรื่องเสน่ห์เมตตามหานิยม
- คาถาปลาช่อน:ในตำนานโบราณมีปลาช่อนนอน
อยู่บนเลนที่เป็นถนน กำลังจะตาย
ปลาช่อนได้ว่าคาถาบนหนึ่ง รู้ถึงพระอินทร์
ท่านถึงมองลงมาเห็นปลาช่อนน่าเวทนาจะตาย
ท่านจึงเสกฝนให้ตก ปลาช่อนจึงเลื้อยไปตาม
ทางฝนจึงได้รอด คาถาบทนี้จึงเชื่อว่าเอาไว้เรียกฝน
ภาวนาไว้ยามคับขันจะรอดดังนั้นหากเรา
พกปลากัด ตัวเรากำลังจะแย่จะไม่รอดแล้ว
ก็รอดพ้นอุปสรรคได้
-หัวใจปลาตะเพียน : สมัยก่อนเด็กที่เกิดมา
เค้าจะให้จ้องปลาตะเพียน
ปลาตะเพียนเป็นปลาน้ำจืด สมัยพุทธกาล
มีพญาปลาตะเพียน (ตะเพียนเงินและตะเพียนทอง)
1 คู่ทั้งตัวผู้และตัวเมีย ได้ไปเจอชาวนาที่เป็นคนใจบุญ
แต่ทำนาเท่าไหร่ก็ไม่รวย เค้าได้นำรำข้าวไป
โปรยให้ปลาตะเพียนคู่นี้กินตลอดเวลา
จนปลาตะเพียนได้สลัดเกล็ดเงินเกล็ดทอง
ให้เอาไปขายชาวนาจึงได้รวยขึ้นมา
เปรียบเสมือนได้ความร่ำรวยจากปลา
วิชาที่ลงปลาตะเพียน คือ หัวใจพระแม่โพสพ
เพราะในตำนานปลาตะเพียนอยู่ได้เพราะรำข้าวของ
แม่โพสพ เปรียบเสมือนหากเราพกปลานี้
ก็จะมีเงินทองติดตัวอยู่ตลอดเวลา
-หัวใจปลาวาฬ เป็นคาถากรามปลาวาฬ
เป็นวิชาการเคี่ยวสีผึ้งของคนยาวีโบราณ
เรื่องมหาเสน่ห์แบบรุนแรง
-หัวใจปลาไหลเผือก ลักษณะของปลาไหลจะรื่น
เปรียบเสมือนจะทำอะไรจะราบรื่นตลอดเวลา
🔸ปลากัดมีคุณวิเศษในตัวสูงมาก
พุทธคุณ : เสน่ห์แบบรุนแรง เมตตามหานิยม
ขจัดปัญหาอุปสรรค คงกระพัน
หากนำมาบูชาติดตัว จะได้ความเป็นเมตตามหานิยม
🔸วิธีบูชา
-พกติดตัวห้อยคอได้ หรือ ทำเป็นพวงกุญแจได้
🌈บูชา
ตัวเล็ก 700 บาท
ตัวใหญ่ 1,500 บาท
วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
พระปรกใบมะขาม
พระปรกใบมะขาม เป็นพระเครื่องที่คนส่วนใหญ่มีความคุ้นเคย ซึ่งที่มาของชื่อ “ปรกใบมะขาม” มาจากขนาดขององค์พระที่เล็กมาก เปรียบประดุจกับใบมะขาม แต่จริงๆ แล้วเป็นพระนาคปรกประจำวันเสาร์นั่นเอง ซึ่งอาจจะมีคำถามตามว่าคนที่เกิดวันอื่นๆ ที่ไม่ใช่วันเสาร์ สามารถแขวนพระนาคปรกได้หรือไม่ ในเรื่องนี้ท่านอาจารย์แขกอธิบายว่า ไม่ว่าจะเกิดวันอะไรก็แขวนพระนาคปรกได้
อาจารย์ไสยศาสตร์ หมอดู มักจะให้คำแนะนำคนที่เกิดวันเสาร์ ให้ไปหาพระนาคปรกมาแขวน อันนั้นเขาเอาพื้นฐานดวงมาเปรียบเทียบกับองค์พระ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าอยู่ในปางไหน มันเป็นสัญลักษณ์ในเชิงวัน ส่วนพระปางนาคปรกพกแล้วร่มเย็น วันไหนก็พกได้ พระปางนาคปรกเกิดขึ้นตอนที่พระพุทธเจ้า นั่งสมาธิเพื่อที่จะตรัสรู้ ปรินิพพาน ปรากฏว่าฝนเกิดตกลงมา พญานาคจึงมาแผ่พังพาน บังฝนไม่ให้มาต้องพระวรกายพระพุทธเจ้า และยังช่วยบังแสงแดดอีกด้วย จึงเปรียบเสมือนเป็นปางที่ร่มเย็น เพราะวันเสาร์เป็นวันร้อน มุทะลุ รุนแรง บูรพาจารย์โหราศาสตร์โบราณ จึงเอาพระปางนี้มาประจำวันเสาร์ เพื่อลดความใจร้อน มุทะลุ รุนแรง
ส่วนพระปรกใบมะขามของท่านอาจารย์มีทีเด็ด คือ เป็นวัตถุมงคลเก่า และเป็นวัตถุมงคลของหลวงพ่อสุข วัดตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ของท่านอาจารย์แขก ปัจจุบันท่านได้มรณภาพไปแล้ว และยังเป็นอาจารย์ศิษย์พี่ของพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี ซึ่งพ่อท่านเขียวให้ความเคารพนับถือพ่อท่านสุขมากที่สุด แม้กระทั่งวันพระราชทานเพลิง เขารู้กันว่าในจังหวัดปัตตานี คนที่รักชอบพอหรือให้ความเคารพ ไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างระหว่างหลวงพ่อสุข คือ พ่อท่านเขียว จึงให้พ่อท่านเขียวไปเป็นประธาน ในงานพระราชทานเพลิง
พระปรกใบมะขามรุ่นนี้ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2539 จำนวนการสร้าง 2,000 องค์ ในตอนนั้นเป็นช่วงเข้าพรรษา หลวงพ่อสุขเรียกท่านอาจารย์แขกเข้าไป พร้อมกับศิษย์พี่และศิษย์น้องอีก 2 คน และคนอื่นๆ อีกประมาณ 10 คน พร้อมกรรมการวัด แล้วเอาพระชุดนี้เข้าโบสถ์เพื่อให้หลวงพ่อสุขปลุกเสก เพื่อนำรายได้มาบูรณะศาลาในวัด
ในขณะเสกพระชุดนี้ถูกบรรจุอยู่ในกล่องกระดาษ จังหวะที่หลวงพ่อสุขท่านกำลังนั่งเสกอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงดัง “ปุ” ขึ้นมา เหมือนกับอะไรที่ทะลุออกมาจากกล่อง แล้วกลายเป็นเงาสีดำๆ บินออกมา ปรากฏว่าเป็นผึ้งประมาณ 50-60 ตัว มีเสียงบินดัง..หึ่ง..หึ่ง ฝูงผึ้งบินไปรอบๆ บริเวณ จนถึงตัวท่านอาจารย์แขก แม้จะกลัวถูกผึ้งต่อยแต่ก็ไม่มีใครกล้าขยับ แทบจะหยุดหายใจ การเสกผ่านไปราวๆ 30 นาที ฝูงผึ้งทั้งหมดได้ไปบินอยู่รอบลัง คนที่อยู่ในพิธีฯ จึงค่อยกระเถิบไปอยู่ใกล้ๆ หลวงพ่อสุข เพื่อจะดูว่าผึ้งจะทำอันตรายท่านหรือเปล่า
หลวงพ่อสุขค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่าฝูงผึ้งทั้งหมดมันหล่นลงสู่พื้น แล้ว กลายเป็นพระปรกใบมะขาม ซึ่งท่านอาจารย์แขกยืนยันว่านี่เป็นเรื่องจริง!
หลวงพ่อสุขหันมาถามท่านอาจารย์แขก “เห็นหรือยัง?”
ท่านอาจารย์แขกตอบไปว่า “เห็นแล้วครับ”
จากเหตุการณที่เกิดขึ้นมีคำอธิบายจากหลวงพ่อสุข เพราะว่าเราตั้งรูป ตั้งธาตุ ตั้งนามขึ้นมา แล้วก็เสกไปตามคาถาที่ให้ไว้ กลับไปฝึกแล้วทำกันให้ได้นะ ทันทีที่หลวงพ่อสุขกล่าวจบ พวกลูกศิษย์ต่างพากันหยิบพระปรกใบมะขาม หลวงพ่อท่านบอกว่าอย่าเพิ่งหยิบ จากนั้นท่านก็ทำการพรหมน้ำมนต์ แล้วเอามือกอบใส่ลัง จากนั้นก็หยิบพระให้คนละองค์
พระปรกใบมะขามชุดนี้เป็นเนื้อทองแดง โลหะผสม สร้างได้เพียงเนื้อเดียวเพราะบล็อกพัง ใครที่เคยทำพระปรกใบเล็กๆ จะรู้ว่าต้องเปลืองบล็อกมาก ด้วยขนาดขององค์พระมันเล็กมาก เมื่อปั้มพระไปเรื่อยๆ ก็จะชนกันง่าย บล็อกพระก็เลยแตก พอบล็อกแตกก็ไปบอกหลวงพ่อขอแกะบล็อกขึ้นมาใหม่ หลวงพ่อบอกว่าไม่เอาแค่นี้พอแล้ว สรุปได้พระมาแค่ 2,000 องค์ แต่ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจนได้ มีคนหัวหมอที่รู้เรื่องนี้ พยายามจะไปเอาพระปรกใบมะขามแต่ท่านไม่ให้ จนถึงวันที่หลวงพ่อมรณภาพ มีกรรมการวัดที่ได้พิมพ์พระปรกใบมะขาม จากนั้นเอาพระไปสแกนด้วยคอมพิวเตอร์ แล้วปั้มขึ้นมาใหม่ แต่ตัวตัดเหรียญมันคนละตัวกัน แล้วเอามาให้เช่าในวันพระราชทานเพลิง บอกว่าเป็นปรกใบมะขามอันลือลั่น
คนแห่ไปที่วัดเพื่อเช่าพระปรกใบมะขาม เช่าตอนนั้นองค์ละ 1,000 บาท แต่ทางวัดไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย มันเป็นกุศโลบายของพวกเซียนพระ พอหลังจากวันงานพระราชทานผ่านไปแล้ว มีเซียนพระเอาพระปรกใบมะขามไปขายที่หาดใหญ่ แล้วบอกเป็นพระปรกใบมะขามที่อาจารย์เสกในโบสถ์ จนกระทั่งกลายเป็นผึ้ง จึงเกิดการเล่นหาในสนามพระเครื่อง พิมพ์พระที่เป็นตัวเสริมไม่ใช่องค์จริง ปัจจุบันราคาองค์ละไม่ต่ำกว่า 2,500 บาท ส่วนพระปรกใบมะขามที่เป็นของแท้ๆ ที่เก็บอยู่ในกุฎิของหลวงพ่อสุข เพิ่งได้มาจากวัดเมื่อช่วงก่อนปีใหม่ 2559 นี่เอง โดยศิษย์รุ่นน้องติดต่อท่านอาจารย์แขก บอกว่าได้ปรกใบมะขามมาจากในกุฏิหลวงพ่อ โดยเขาจะนำเงินกลับไปบูรณะวัด และไปซื้อข้าวสารอาหารแห้ง ไปถวายวัดที่ลำบากคนเข้าไปไม่ถึง ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านอาจารย์แขกบอกให้ส่งตัวอย่างเหรียญมาให้ดู เพื่อต้องการจะพิสูจน์ว่าตัวตัดเป็นตัวเดียวกันหรือเปล่า (ตัวคัดข้างเป็นตัวชี้ขาดว่าบล็อกเดียวกันหรือเปล่า)
ทางลูกศิษย์ได้ส่งภาพมาทางไลน์ แต่ท่านอาจารย์แขกก็ยังแน่ใจ จึงให้ทาง ลูกศิษย์ส่งพระจริงๆ มาดูก่อน 50 เหรียญ แล้วท่านก็โอนเงินไปให้ พอลูกศิษย์ส่งพระปรกใบมะขามมาให้ดู ท่านอาจารย์แขกก็ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด รัดกุม โดยเทียบขอบข้างกับพระปรกใบมะขาม ที่ท่านได้มาจากหลวงพ่อสุข ปรากฏว่าบล็อกเดียวกัน ตัวตัดตัวเดียวกัน
ส่วนในเรื่องของประสบการณ์ของพระปรกใบมะขาม ท่านอาจารย์แขกเล่าว่าได้เอาพระไปเลี่ยมทอง แล้วเอาไปให้ญาติพี่น้องใส่ ประสบการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านกล่าวว่ารับประกันสุดๆ ขนาดตัวกระเด็น เสื้อขาด แต่ไม่เป็นอะไรเลย และยังมีประสบการณ์อื่นๆ อีกมากมาย ในสนามพระเครื่อง พระปรกใบมะขามบล็อกนี้ เล่นกันไม่ต่ำกว่า 4-5 พันบาท
ในเรื่องอำนาจพุทธคุณของพระปรกใบมะขาม ท่านอาจารย์แขกอธิบายว่า ดีในเรื่องคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม โชคลาภ และไม่จำเป็นต้องคนเกิดวันเสาร์ เกิดวันอื่นๆ ก็แขวนได้ ผู้หญิงแขวนได้ ยิ่งเด็กเล็กๆ ยิ่งต้องแขวน เพราะจะได้มีปัญญา
บูชา 700 บาท
แบบเลี่ยม 900 บาท
โน้ตยินดีให้บริการค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
~©• จตุคามรามเทพ •©~ "รุ่นผ่าตะวัน โชติช่วง"
~©• จตุคามรามเทพ •©~ "รุ่นผ่าตะวัน โชติช่วง" ------------------------ ในศาสตร์ความเชื่อหลาย ๆแขนง เป็นช่วงเข้าสู่ยุคมืด เนื่อ...
-
ขุนแผนรับทรัพย์ เป็นขุนแผน “รุ่นเดียว” ที่พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี “ดูแลการสร้างด้วยตัวเองทุกขั้นตอน” ซึ่งเป็นว...
-
ติดต่อเจรจา ยื่นซอง ค้าขาย หาโชคลาภ เมื่อว่าคาถาแล้วเอามือปาดปากซ้ายขวา ลักษณะเหมือนเสือที่กินแล้วก็ปาดปาก รับประกันได้เลยว่า ได้ตามนั้...
-
เครื่องรางแห่งโชคลาภชัยชนะ ความสำเร็จ ร่มเย็น และความผาสุข วัตถุมงคลอาจจะไม่ใช่ “ปัจจัย” สำคัญในการดำรงชีวิต แต่ ณ ปัจจุบันกลับมี...
-
วัตถุมงคลที่สร้างยาก และกว่าจะเขียนเสร็จใช้เวลาหลายปี ขออธิษฐานดั่งใจปรารถนาต้องการ - ตะกรุดวิชายาวีโบราณ อ.แขก รือเสาะ ...
-
ปลัดขิกหลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน ปลัดขิกหลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน สร้างจากไม้เขยตาย แม่ยายครวญ ร่วมปลุกเสกโดย อาจารย์แขก รือเ...
-
โดดเด่นในเรื่องโชคลาภ โภคทรัพย์ คงกระพัน แคล้วคลาด -อาจารย์เกลื่อน วัดประดู่หมู่ เป็นอาจารย์ของอาจารย์แขก -เหรียญรุ่นนี้ ด้านห...
-
คนคิดร้าย คิดไม่ดีกับเรา แค่นึกถึงก็เปรียบเสมือนเราขว้างวชิราวุธออกไป เราแค่นึกถึงอาวุธนี้ไปปราบคนๆนี้ นึกแล้วขว้าง (ด้วยใจ) ออกไป ...
-
ฮู้ฟ้าประทานพร หมื่นคำอธิฐานสมความปรารถนา วาสนาโชคลาภรุ่งเรืองเฟื่องฟู - สามเทพคุมสามภพ - เปิดฟ้า เชื่อมดิน - ห้าธาตุ หย...
-
คนที่ดวงตก มีคนปองร้าย นักการเมืองท้องถิ่น ควรมี "กุมารทองพี่เลี้ยง" พกติดตัว ถ้ากุมารคอหักหรือหายจากกรอบ แสดงว่าให้ระวังตัวอย่า...
-
คำถามที่ อ.แขก มักพบบ่อยคือ ราหูย้ายราศี ต้องทำอย่างไรบ้าง? อยากทราบว่ามีวัตถุมงคลอะไรที่ช่วยเสริมได้ ซึ่งอ.แขก ตอบว่า "หากเป็นเรื่...