วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561

เฉลว ๗ ตา





เครื่องรางของขลัง “เก่าแก่” ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย
เฉลว ๗ ตา
ผู้ใดบูชา “เทพ พรหม เทวา” ช่วยคุ้มครอง !!!
          เฉลว คือ เครื่องรางที่เก่าแก่ที่สุด เท่าที่มีการสร้างเครื่องรางเกิดขึ้น กล่าวกันว่า พระร่วงเจ้าวาจาสิทธิ์ ท่านพกเฉลว ๗ ตา ติดตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้ท่านเป็นที่เคารพ แก่องค์เทพ พรหม เทวาทั้งหลาย
          บูรพาจารย์โบราณบอกว่า ใครที่มีเฉลวติดตัว จะเป็นคนที่อยู่เหนือเทพพรหม และไม่มีอวิชาใดๆ มาทำอันตรายได้ และยังเชื่ออีกว่าพระร่วง ที่เป็นใหญ่ในแผ่นดินและมีชื่อเสียง เพราะท่านพกเฉลว ๗ ตา รองลงมาในตำราได้กล่าวว่า ในสมัยของพระนารายณ์มหาราช พระองค์ก็บูชาเฉลว ๗ ตาติดตัว มีกล่าวไว้ในพงศาวดารช่วงหนึ่ง ท่านได้พระราชทานเฉลว ๗ ตา ให้กับคนที่ติดต่อการค้าระหว่างเมือง เพื่อเอาไว้ป้องกันคุณไสย ผู้ที่ได้รับพระราชทานเฉลว ๗ ตาไปนั้น ไปถูกคนทำคุณไสย์ใส่ตัว ถูกเสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตน มาต่อยให้ถึงตาย แต่ด้วยพุทธคุณของเฉลว ๗ ตา เมื่อตัวต่อตัวแตนบินมาถึงตัว ก็กลับกลายเป็นใบมะขามเหมือนเดิม แสดงว่าคุณไสย์ไม่อาจทำอันตราย คนที่พกเฉลว ๗ ตาได้เลย
          ในวิชาการสร้างเฉลว ๗ ตา มูลเหตุปฐมเลยก็คือ กลุ่มดาวทั้ง ๗ ดวงบนท้องฟ้า ที่ส่งผลกับมนุษย์มากที่สุด เป็นภูมิปัญญาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ยุคโรมันดั้งเดิม เราจะสังเกตว่าในยุคกรีกโบราณ มีการบูชาเทพเจ้า ซึ่งเป็นภูมิปัญญาตกทอดมาตั้งแต่สมัยอียิปต์ กรีก คือ ชนชั้นดั้งเดิมโบราณ แต่การทำเฉลวได้นั้น คุณวิเศษของเฉลวสูงมาก วัตถุที่นำมาสร้างเฉลวก็ต้องสูงตามด้วย  ตามตำราได้ระบุไม้ไผ่ไว้ 3 ประเภท (เฉลวทำมาจากไม้ไผ่)
          ไม้ไผ่ลำดับที่ 1 คือ ไม้ไผ่ฟ้าผ่า ข้ามคลอง ช้างข้าม คือ ไม้ไผ่โดนฟ้าผ่า เหลืออยู่เพียง 1 ลำที่ไม่ไหม้ และต้องล้มข้ามคลอง และมีช้างมาเดินข้าม ถึงจะนำมาสร้างเป็นเฉลวได้
          ไม้ไผ่ลำดับที่ 2 คือ ไผ่สีสุก มีสีเหลืองตลอดลำ ชี้ไปทางทิศเหนือ ล้มข้ามคลอง สามารถทำเฉลวได้ ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องโดนฟ้าผ่า ช้างข้าม เพราะไม้ไผ่สีสุกนั้น มีอำนาจพุทธคุณในตัว ปกติไม้ไผ่สีสุก จะชี้ไปทางตะวันตกเสมอ การย้อนชี้ไปทางทิศเหนือ ถือว่ามีอำนาจพุทธคุณสูง การไปหาไม้ไผ่สีสุก ชี้ไปทางทิศเหนือ ล้านต้นจะมีสักต้นหนึ่ง
          ไม้ไผ่ลำดับที่ 3 “สูงสุด” คือ ไม้ไผ่ที่กั้นคอกช้างเผือก (กั้นเลี้ยงลูกช้าง) ไม้ไผ่ประเภทนี้พรานโบราณจะหามากั้นเป็นคอก เลี้ยงช้างเผือก ถือว่ามีอำนาจพุทธคุณ ในการกั้นสัตว์ใหญ่ ที่มีเทวดารักษาอย่างช้างได้ อันนี้เป็นไม้ไผ่อีกประเภทหนึ่ง ที่นำมาสร้างเป็นเฉลว
          เฉลว เป็นวัตถุมงคลที่ไม่มีวันเสื่อม แต่วิธีการทำยากมาก ต้องเรียนกันแบบปากต่อปาก โดยขนาดของเฉลวทั้งหมด ต้องเปะเลย เวลาเราหักไม้ไผ่ ห้ามหักจนขาด ถ้าขาดก็คือเสีย เวลาจักตอกเป็นรูปเฉลว หากมันเหลือคือใช้ไม่ได้ หากขาดก็ใช้ไม่ได้ ทุกขณะที่เราหักเฉลว ๗ ตา จิดจะต้องบไม่วอกแวกไปอื่น พร้อมว่าคาถาที่ระบุในตำราตลอดเวลา (เป็นงานทำด้วยมือที่หายากมาก ปัจจุบันได้หายสาบสูญไปแล้ว)
          เฉลวสร้างออกมา 3 ขนาด 3 สี โดยสร้างจากไม้ทั้ง 3 อย่าง (1 สีเขียว) คือ เหนี่ยวทรัพย์ ไม่ให้เงินในกระเป๋าออกไปไหน ราคา 500 บาท (1 สีน้ำเงิน) คือ นำเงินทอง โชคลาภ เข้ามาสู่ตัวผู้บูชา บูชา 1,000 บาท (3 สีเหลือง) ไม้ไผ่กั้นคอกช้างเผือก บูชา 1,500 บาท ปกติตัวของท่านอาจารย์แขก จะพกเฉลวติดตัวทั้ง 3 สี 

วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2561

ฮู้แมงมุม ขอพรจากฟ้า



ฮู้แมงมุม
ขอพรจากฟ้า
พิเศษฤกษ์จันทร์ ซ้อนจันทร์
เจ็ดดาวขโมยโชคจากพระจันทร์
.
แมงมุมเป็น 1 ในสัตว์ 5 พิษ
ของเหมาซาน
-- คุณสมบัติ ---
คนใหญ่ คนโต คนมีอำนาจ จะมาอุปถัมภ์
ค้ำชูเรา ถ้าทำการค้า ลูกค้าจะเดิน
เข้ามาชนเราอย่างง่าย ๆ เนื่องจาก
เชื่อมโยงกับพลังอิม (หยิน)
ยามที่เราธาตุในตัวสมบูรณ์
พรจากฟ้าลงหาเรา
“การฝันจะแม่นมาก”
.
ใครไม่มีลูกเอาฮู้นี้ไปแปะ
จะได้ลูก เป็นฮู้ตัวเดียวเลย
ที่แรงมากสำหรับคนที่ต้องการมีลูก
.
ธุรกิจล่มจม ย่้าแย่ ค้าขายไม่ดี
ต้องการเซ็นต์สัญญาหนัก ๆ
จากต่างประเทศหนัก ๆ เอาไปแปะ
หลังที่นั่ง เหมาะกับ พวกเล่นหุ้น
เล่นทอง ขโมยเงินทอง ขโมยโชค
อยากให้แฟนกลับมา
ให้เอาไปติดในตู้เสื้อผ้า
(เปิดตู้แล้วต้องเห็นฮู้)
แฟนกลับมาภายใน 7 วัน
.
ทำให้เก็บเงินอยู่ โดยไว้ในตู้เซฟ
.
การติดตั้งในบ้าน
กรอบสีทอง ดีที่สุดคือติดไว้
บนหัวนอน และไม่ต้องสนใจทิศทาง
ห้ามติดหน้าบ้าน หรือ
ติดให้คนนอกบ้านเห็น
ถ้าบ้านอื่นเห็น ฮู้นี้ จะแปลว่า
บ้านที่เห็นได้โชคแทน
เป็นการเอาโชคเราให้บ้านคนอื่น
ไม่ควรติดที่หิ้งพระ
.
วางใต้ตู้ใชว์ แล้วเอาของวางทับ
จะดึงเหยื่อ (ลูกค้า) เข้ามาแบบรุนแรง
.
ต้องการถูกหวย แปะ หัวเตียง
เมื่อฝันเห็นเลขแล้ว
ห้ามบอกใครให้ไปซื้อเอง

ฤกษ์จันทร์ซ้อนจันทร์
เป็นฤกษ์ พระจันทร์ ให้เงิน
เจ็ดดาวขโมยโชคจากพระจันทร์
หมายเลข1-299 
หมายเลข 701-999
.
ผืนละ 2,000 บาท
สนใจจองผ่านทางโน้ต
ทางนี้ได้เลยนะค่ะ
ช้าหมดแน่ค่ะ

ชุด Happy Business






ชุด Happy Business
.
ฮู้เรียกลมจะเรียกพลังงานดีเข้าหา
ลมกับน้ำ พลังงานมากับลม
หยุดอยู่ที่น้ำ หากไม่มีลมจะมี
ทรัพย์ได้อย่างไร 
ฮู้เรียกลมจะช่วย
ดึงพลังงานดีเข้าหลังโต๊ะทำงาน
ส่งผลต่อตัวคุณขณะนั่งคิดงาน
ทำงาน คิดงานใหม่ๆ หาโอกาส
เปิดธุรกิจใหม่ เห็นโอกาสจาก
โต๊ะที่ทำงานของคุณ
.
ฮู้ 5 ขุนเขาจะเป็นค่ายคาถา
ของวิชาเต๋า-เหมาซาน
เปรียบเสมือนเป็นการสร้าง
ชัยภูมิภายนอกที่ไม่มี
หรือมีอยู่ก็ได้ เป็นเขา
ทั้ง 5 ลูก ไว้กักเก็บพลังงาน
ฮู้จะช่วยส่งผลหาเรา
ทำให้เราซึมซับพลังงาน
เสริมเราโดยตรง
สมาชิกท่านใดที่ทำธุรกิจ
หรือทำอะไรก็ไม่เจริญ
รุ่งเรือง ซึ่งเกิดมาจากชัยภูมิ
โดยรอบไม่ส่งเสริม 
แนะนำควรรีบปรับแก้ไข
โดยใช้ฮู้ชุดนี้ปรับแก้ไข
ชัยภูมิให้ส่งผลดีเข้าหาตัวเรา
.
ฮู้พิทักษ์บ้าน
เป็นฮู้ค่ายคาถาวิชาเหมาซาน
ชั้นสูง เร่งพลังงานทรัพย์
กระตุ้นโชคลาภ ช่วยปรับ
พลังงานรอบบ้านให้ส่งผล
เข้าหาเจ้าของบ้าน
พลังดันพลังร้ายออกจาก
บ้านของคุณ ดึงพลังงาน
ภายนอกเข้าบ้าน
และที่สำคัญคือ เร่งโชคลาภ
ให้กับท่านด้วย
.
ชุด Happy Business
ติดตำแหน่งหลังโต๊ะทำงาน
หรือตำแหน่งที่ส่งเสริมคุณ
ในบ้าน และต้องติดวันเวลา
ที่ส่งเสริมท่านด้วย
(ทางโน้ตจะดูวันและเวลาติดให้ค่ะ)


ชุดละ 9,000 บาท
แบบใส่กรอบ 10,200 บาท
โน้ตยินดีให้บริการค่ะ

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561

พระสมเด็จจิตรลดา รุ่น 2

พระสมเด็จจิตรลดา รุ่น 2




หากท่านเป็นคนที่ชอบสะสมพระเครื่อง คงจะทราบกันเป็นอย่างดีเลยว่า 
วัตถุมงคลที่เกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในเวลานี้ราคาสูงมาก
 และมีกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ได้ทำ “ปลอม” กันออกมาเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่า ทำปลอมแม้กระทั่งเหรียญบาท ปี 17 (พ.ศ.2517) 
ซึ่งเรียกกันว่า “เหรียญมหาบพิตร” 


ในสมัยที่อาจารย์แขกเริ่มเล่นพระใหม่ ๆ เมื่อปี พ.ศ. 2530 สมเด็จจิตรลดาองค์ละ 2 แสนกว่าบาท และต้องมีหลักฐาน คือ ใบพระราชทาน แต่ในเวลานี้พระสมเด็จจิตรลดา ราคาถูกสุดอยู่ที่องค์ละ 6,000,000 บาท (ไม่มีใบ) แต่ถ้ามีใบองค์ละ 10,000,000 บาทขึ้นไป ปัจจุบันมีการทำปลอมถึง 99.99.99 % (  บนคอของอาจารย์แขกมีพระสมเด็จจิตรลดา ซึ่งร้านทำกรอบขอซื้อต่อให้ราคา 6,000,000 บาท)
ในเวลานี้วงการพระเครื่อง หันมาให้ความสนใจวัตถุมงคล ซึ่งเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 กันเป็นจำนวนมาก ถามว่าชาวบ้านจะไปเอาเงินมาจากไหนตั้ง 6 ล้านบาท ซึ่งบางคนอาจจะมีเงิน 6 ล้าน แต่หากใจไม่ชอบจริง ๆ มันก็ต้องคิดหนัก 
ท่านอาจารย์แขกได้มานั่งคิด ทำยังไงให้ท่านสมาชิกรายการได้วัตถุมงคลที่เป็นของที่ระลึกของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่เชื่อถือได้ 100 % และมีคุณค่าทางจิตใจ และมีมูลค่าทางราคาด้วย ดังนั้นวัตถุมงคลที่จะกล่าวต่อไปนี้ จึงถือว่ามีความพิเศษอย่างสุด ๆ เพราะเป็นของพระเจ้าอยู่หัว ราชกาลที่ 9 “พระพุทธนวราชบพิตร” ซึ่งมีชื่อเรียกกันว่า “สมเด็จจิตรลดา 2” 
หลังจากที่ทรงสร้างพระสมเด็จจิตลดา ครั้งแรก จากนั้นพระองค์ก็ไม่เคยสร้างอีกเลย มาสร้างอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2529 ที่วัดบวรฯ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ “สมเด็จจิตรลดา 2” โดยเป็นพระสมเด็จจิตรลดา ที่พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทาน “ผงจิตรลดา” ให้มาทั้งหมด พร้อมกับมีรับสั่งให้นายกองช่างหลวง ไปควบคุมการสร้าง     
ในเมื่อเราเกิดในรัชกาลที่ 9 วัตถุมงคลที่เป็นของรัชกาลที่ 9 คือ พระสมเด็จจิตรลดา แต่หากถามถึงวัดที่ทรงผนวช หรือชนวนมวลสาร พร้อมกับรูปลักษณ์พิมพ์ทรง แม้กระทั่งชื่อ “จิตรลดา” ชื่อของรุ่นที่ 2 คือ “พระพุทธนวราชบพิตร” ซึ่งถือว่ามีความชัดเจน และตรงพระราชทานตรา ภ.ป.ร. (ด้านหลัง) 
หากถามว่าวัตถุมงคลที่ถูกต้องและชัดเจนที่สุด คือ พระสมเด็จจิตรลดา 2 นี่คือ “ของแท้” ซึ่งนำไปแขวนได้อย่างสนิทใจ พระเกจิฯ ระดับประเทศล้วน ๆ มาทำการพุทธภิเษก พระเจ้าอยู่หัว ราชกาลที่ 9 ทรงจุดเทียนชัย หลังจากนั้นไปอีก 1 ปี วัดบวรฯ ได้สร้างพระกริ่งปวเรศ ปี 30 โดยพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จไปเททอง ใต้ฐานพระกริ่งปวเรศ ปี 30 อุดด้วยผงจิตรลดาที่เหลือ จากการสร้างพระสมเด็จจิตรลดา 2 ดังนั้นพระรุ่นนี้ท่านจึงแขวนได้อย่างสนิทใจ 

ท่านอาจารย์แขกได้กล่าวถึงวัตถุมงคล พระสมเด็จจิตรลดา 2 เป็นวัตถุมงคลที่สูงมาก และสมาชิกมันตระสยาม “ทุกคน” ควรจะมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง    



บูชา 1,500 บาท
แบบเลี่ยม 1,700 บาท
ค่าจัดส่งทั่วประเทศ 100 บาท

โน้ตยินดีให้บริการค่ะ

วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561

ฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะ



ฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะ
ท่านอาจารย์แขกเรียก “ฮู้ประทานความมั่งคั่ง” ควรมีมากว่า 3 ผืน
พกฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะติดตัว ห้างร้าน บริษัท ร้านค้า ช่วยเสริมทรัพย์โดยตรง
          วัตถุมงคลที่นำเสนอในนิตยสารมันตระสยาม ทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้ว เน้นในเรื่องโชคลาภ ช่วยในเรื่องการทำมาค้าขาย ซึ่งอาจารย์แขกท่านจะย้ำตลอดเวลา ปัญหาสำคัญที่สุดในเวลานี้ ไม่มีใดเกินเรื่องการทำมาหากิน เรื่องอื่นล้วนเป็นเรื่องรองลงมาทั้งสิ้น
          ฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะ” จึงเป็นวัตถุมงคลที่ทุกท่าน ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง และต้องเรียนให้ทุกท่านได้ทราบ การทำฮู้ของอาจารย์แขกในแต่ละครั้ง จำนวนจะมีเพียงแค่ไม่กี่ผืน หากหมดแล้วคือหมดเลย การจะนำกลับมาทำใหม่อีกรอบไม่มีอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญของการสร้างฮู้ คือ ต้องมีตราประทับ ถามว่าไม่มีตราประทับจะได้มั้ย ตอบได้เลยว่าหากไม่มีตราประทับ นำไปใช้จะไม่มีทางเห็นผลได้เลย และต่อไปนี้ฮู้ทุกผืนต้องมี “รันเลข” เพื่อง่ายแก่การค้นหาในเว็บไซต์
          ท่านอาจารย์แขกเรียกฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะว่า “ฮู้โชคลาภ” ปกติแล้วเราจะเห็นฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะเยอะมาก แต่เขาเขียนเพียงแค่ชื่อแต่ไม่มีรูป การที่เขียนเพียงแค่ชื่อไม่มีรูป เหตุผลคือคนที่รู้วิชาเหมาซาน ไม่กล้าใส่รูปลงไปในฮู้ เพราะคนที่จะใส่รูปลงไปในฮู้ได้นั้น ต้องทำสนธิสัญญากับ 3 ภพ ซึ่งหากทำไม่ถูกต้องชีวิตจะสั้น และฮู้ที่มีรูปจะต้องได้รับอนุญาต จากปรมาจารย์โดยตรงถึงทำได้ ไม่ใช่นึกจะทำก็ทำตามใจตัวเอง
          เรารู้จักฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะว่าท่านเป็นเทพโชคลาภ ที่หมุนเวียนมาในแต่ละปีของทุกปี ซึ่งการเดินทางของฮู้โชคลาภจะไม่เหมือนกันสักปี เขาซ่อนเอาไว้เป็นคีย์เวิร์ด เทพโชคลาภคือพลังงานปีของแต่ละปี พลังงานของแต่ละปีถูกซ่อนไว้ในรูปลักษณ์เทพเจ้า แต่คนส่วนที่ไม่เชื่อเรื่องเทพเจ้าจะบอกว่า เขาสอนแบบภูมิปัญญาโบราณ คือ ให้คนยึดเหนียวไปทางเทพ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ถูก 100 % แต่มันก็ไม่ได้ผิด 100 % จริง ๆ แล้วฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะเป็นเทพที่ประทานโชคลาภ แต่การที่ท่านจะเสด็จมา สัมพันธ์กับทิศทางพลังงานปี เพราะพลังงานใน 1 ปีจะมีตลอดทั้งปี เปรียบเสมือนพลังงานนี้ เป็นพลังงานโชคของปีนั้น ฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะเลยเป็นทิศทางที่ฮู้ไฉ่ซิงเสด็จมาในแต่ละปี แต่ที่เขาเขียนเป็นตัวหนังสือ เหตุผลคือเขาใส่รหัสปีลงไป เราจะเห็นว่าฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะของแต่ละสำนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกระดาษ พอครบ 1 ปีเขาจะให้เผาทิ้ง เพราะการสอนมาในระบบเหมาซาน เขาสอนมาแบบนั้น คนเหล่านั้นจะเป็นลูกศิษย์ชั้นล่าง ๆ ของสำนักเหมาซาน ซึ่งไม่สามารถทำปฏิสัมพันธ์กับ 3 ภพได้ เขาจึงไม่ออกมาเป็นฮู้ผ้า และก็น้อยมากที่คนจะทำออกมาเป็นฮู้ผ้า ยิ่งเป็นเหล่าซือหรือซือหู (อาจารย์) ที่เรียนเหมาซานมา เขาจะยิ่งไม่กล้าทำเพราะรู้ว่ามันอันตราย           
          ฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะของอาจารย์แขกทำเป็นฮู้ผ้าและมีรูป แสดงว่าเป็นฮู้ชั้นสูง ทำถูกต้องตามตำราวิชาเหมาซาน ไม่ใช่แค่นำมาพกติดตัว แต่ยังสามารถเอาไปใส่กรอบ แล้วตั้งไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยะปีนี้ได้ เพราะฮู้มีพลังงานของไฉ่ซิงปีนี้อยู่แล้ว ดังนั้นคนที่ได้ฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะไป สามารถเอาไปใส่กรอบทอง (เท่านั้น) แล้วตั้งไหว้รับไฉ่ซิงเอี๊ยะประจำปี พอตั้งไหว้เสร็จเอาฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะไปติดที่หิ้งพระ แล้วเอากระถางธูปที่เราไหว้ มาตั้งหน้าฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะ แล้วนับต่อไปอีก 1 ปี (ตลอดปี พ.ศ. 2560) เราจะมีพลังงานเดียวกับพลังงานปีทั้งปี (ฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะผืนนี้เป็นปางมั่งคั่ง) ส่วนฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะ ปี พ.ศ. 2561 เป็นปางบู้
          ฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะที่สร้างใน ปี พ.ศ. 2560 จะเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง ส่วนปี 2561 เป็นปางบู้ ดังนั้นพยายามเก็บฮู้ให้ครบ 3 ผืน ซึ่งต้องเวลานานถึง 4 ปี ผู้ใดมีฮู้ครบ 3 ผืน ถือเป็นสุดยอดฮู้ของเหมาซาน เกี่ยวกับเทพโชคลาภ และหากพกฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะติดตัว ห้างร้าน บริษัท ร้านค้า ถือว่าช่วยเสริมทรัพย์โดยตรง 1 คนควรมีมากกว่า 1 ผืน เพราะ 1 มีติดบ้าน 2 ติดตัว 3 นำไปติดร้าน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะ มากกว่า 3 ผืน เนื่องจากท่านเป็นเทพโชคลาภ ทุกวันนี้เรากินใช้เป็นหลัก จริง ๆ แล้วอาจารย์แขกจะสร้างเป็นกระดาษ แต่คิดทบทวนไปมาพบว่ามันสำคัญและจำเป็นจึงทำหากพกฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะติดตัว ห้างร้าน บริษัท ร้านค้า ถือว่าช่วยเสริมทรัพย์โดยตรงจึงทำเป็นฮู้ผ้า
          ลูกศิษย์ของอาจารย์แขกไม่มีความรู้เรื่องเหมาซาน จนกระทั่งนำมาเผยแพร่ในนิตยสารมันตระสยาม แต่ด้วยความรำคาญซินแสที่ “มั่ว” จนเละเทะ จึงจำเป็นต้องออกมาพูด แล้วทำฮู้ออกมาให้ดูว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นแบบนี้ แม้แต่อักขระเลขยันต์ ก็ไม่มีเขียนในฮู้ตำราไหน เพราะมันอยู่ในบันทึกเหมาซาน โบราณดั้งเดิม แม้ว่าเป็นยันต์บังคับทิศทาง ด้านล่างของฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะเป็นฮู้กระบี่ และสัญลักษณ์ของดาวเหนือ คือ 7 ดาวบนฟ้าของไท้อิท ซึ่งจะเจอในฮู้หลายผืนของเหมาซาน หากเห็นที่ไหนให้รู้ว่าเป็น “เทพ” ประทานทรัพย์โดยตรง ในวิชาของเหมาซาน
          ในปีหน้า “ทองแข็ง” ดังนั้นอาจารย์แขกท่านจึงเลือกสีนี้ออกมา ให้เป็นทองหยินกับหยางปนกัน สามารถพับเลี่ยมห้อยคอ พกเป็นพวงกุญแจได้ แต่ห้ามใส่กระเป๋ากางเกง เนื่องจากเป็นฮู้สูง แต่หากเป็นห้างร้าน บริษัท บ้าน ควรไปเลี่ยมใส่กรอบแล้วปิดไว้เลย แล้วตั้งหิ้งต่างหาก (ต่ำกว่าพระพุทธ แต่เท่าเทพทั่วไป)
          คนจีนจะมีกระถางธูป “แยก” เทพโชคลาภโดยตรง คนจีนจะนับถือไฉ่ซิงเอี๊ยะมาก แต่หาคนที่เชิญฮู้ซิง “ยากมาก” จึงเป็นโอกาสดีที่ทุกคน จะได้ฮู้เหมาซานที่เกี่ยวกับไฉ่ซิง ซึ่งทำยากมาก 
          อาจารย์แขกกล่าวว่า “ช่วงนี้มันเป็นช่วงวิกฤติจะได้โบนัสหรือไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่อาจารย์แขก ตัดสินใจออกฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะ คนที่จะกำไรประจำปี สรุปไตรมาสสุดท้ายช่วงนี้เท่านั้น จึงเน้นให้ทุกคนมีฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะก่อนปีใหม่ แล้วเอาฮู้ไฉ่ซิงเอี๊ยะ ไปไหว้รับดวงวันตรุษจีน”


บูชา 1,000 บาท
แบบเลี่ยม 1,200 บาท
โน้ตยินดีให้บริการค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2561

เหรียญมหาบพิตร





วัตถุมงคล “เหรียญมหาบพิตร” มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ 
คือ มีทหารนายหนึ่งไปรบ แล้วโดนระเบิดแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

 พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านได้เสด็จไปเยี่ยม 
พระองค์ได้มีรับสั่งกับทหารนายนั้น ได้ข่าวว่าคุณหนังเหนียว 
อยากทราบว่าคุณพกวัตถุมงคล เครื่องรางอะไร หรือมีอะไรดี 
ทหารนายนั้นกราบทูลว่าข้าพระคุณเจ้ามีวัตถุมงคล 
พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จึงขอทอดพระเนตรวัตถุมงคลของ
นายทหาร 

นายทหารจึงหยิบห่อผ้า ถวายพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 
ทรงเปิดห่อผ้า ทอดพระเนตรเห็นเหรียญ 1 บาท 
ตราครุฑ ซึ่งไม่มีการลงเลขยันต์ใดๆ เลย 
ทหารนายนั้นมีความจงรักภักดี ต่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สูงมาก
ซึ่งอาจารย์แขกได้อธิบาย นายทหารคิดดีทำดีอยู่แล้ว 
จนถึงขั้นสร้างพลังจิตให้ตัวเอง เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันให้ตัวเองได้ 
คนเราแม้จะคงกระพันหนังเหนียวอะไรก็แล้วแต่ 
จิตตัวเองต้องแข็ง เพราะฉะนั้นวิชาการของบูรพาจารย์สมัยอดีต 

...ให้ท่องวัตถุมงคล ท่องคาถา สร้างพลังจิตให้ตัวเอง 
แต่ทหารนายนั้นมีความจงรักภักดีสูง ถึงขั้นยอมตายถวายชีวิต 
เพื่อรักษาแผ่นดิน ขอให้ดำรงไว้เพื่อแผ่นดินไทย 
แต่ในตัวมีเหรียญ 1 บาท ปี 2517 ซึ่งด้านหลังเป็นตราครุฑ 
ตราประจำแผ่นดิน ด้านหน้าเหรียญเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ 
พระเจ้าอยู่หัวราชกาลที่ 9 หากจะเปรียบก็เหมือน “พก” 
พระโพธิสัตว์ชั้นสูง จึงสร้างพลังจิตให้ตัวเอง 
จนถึงขั้นคงกระพันแคล้วคลาดได้ 

เหรียญมหาบพิตร จึงกลายเป็นเหรียญที่ทหารหลายๆ นาย 
หลายยุค หลายสมัย มีประสบการณ์มากเรื่องคงกระพันแคล้วคลาด
จนถึงขนาดบอกกันปากต่อปาก 
หรียญครุฑของเราเป็นเหรียญวิเศษ ไม่ต้องไปหาพระอะไร 

ข้อสังเกตของเหรียญให้ดูง่ายๆ คือ ด้านหลังซึ่งเป็นรูปครุฑ 
“อ้าขา” ซึ่งถือเป็นเหรียญแรก ในสมัยก่อนการทำแบบนี้ 
พราหมณ์ต้องมีการบวงสรวง หากจะถามว่าต้องเสกมั้ย? 
ตอบว่าไม่เสกก็เหมือนเสก จึงทำให้มีความขลังในตัวสูงมาก 

ครูบาอาจารย์ในสมัยอดีต บังคับเลยหากจะทำเหรียญขวัญถุง
 “ล่าสุด” พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี 
ท่านได้กล่าวกับอาจารย์แขก หากจะทำเหรียญขวัญถุง 
ให้ไปนำเหรียญ 1 บาท ปี 2517 เหรียญนั้นไม่ต้องทำอะไร
ก็ศักดิ์สิทธิ์ พกติดตัวก็คงกระพันแคล้วคลาด คงอำนาจ 
มหานิยมทุกอย่าง เรียกว่า “เหรียญมหาบพิตร” คำว่า
“เหรียญมหาบพิตร” ได้ยินเป็นครั้งแรกจากพ่อท่านเขียว

บูรพาจารย์ในสมัยอดีต..อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 
ท่านกล่าวว่า “หมอ (หมายถึงอาจารย์แขก) เหรียญ 1 บาท
นั้นดีที่สุดแล้ว เวลาไปโดนอาถรรพณ์ก็ไม่ต้องใช้อะไรเลย 
แค่เอาเหรียญ 1 บาท ปี 2517 ไปตอกใส่เสาเลยแล้วก็หาย 
(บ้านหลังนั้นเป็นเสาไม้ตะเคียนตกน้ำมัน “เฮี้ยน” มาก) 
ซึ่งเราจะเคยได้ยินคำโบราณบอกว่า ตะเคียนต้นไหนเฮี้ยน
ตัดไม่ได้ ไม่ต้องทำอะไรเลย ให้เอาตราครุฑไปประทับ 
รับประกันว่าตัดได้หมด อะไรก็อยู่ไม่ได้ 
คือ เอาเหรียญนี้ไปแปะติดแล้วตอก ให้รูปครุฑฝังในเนื้อไม้ 
โดยไม่ต้องเสกคาถาอะไรเลย นี่คือเรื่องจริง 
เนื่องจากครุฑมีอานุภาพรุนแรง และมีแค่เหรียญปี 2517 เท่านั้น 
ครูบาอาจารย์สมัยก่อน นิยมเอาเหรียญครุฑปี 2517 
มาทำเป็นเหรียญขวัญถุง 

เหรียญมหาบพิตร ซึ่งวัตถุมงคลของอาจารย์แขกต้องไม่ธรรมดา 
คือ เป็นเหรียญ “แจกทาน” ของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ 
จังหวัดระยอง มีตอกโค๊ด เลข 3 แต่มี 3 เล็ก และ 3 ใหญ่ 

อาจารย์แขกได้เหรียญจากคุณหมอลัดดา 
ซึ่งเป็นผู้ดูแลหลวงปู่ทิม จำนวนมากพอสมควร 
ในสมัยนั้นพระผงพรายกุมาร พิมพ์เล็ก 
ราคาตกองค์ละ 1,000 บาท พิมพ์ใหญ่ 1,500 บาท 
ซึ่งในเวลานั้นขายเหมา เหรียญละ 30 บาท 
ซึ่งเหรียญนี้หลวงปู่ทิมได้ปลุกเสกด้วย เมื่อปลายปี พ.ศ. 2517 
จึงเป็นเหรียญ “แจกทาน” ที่มีราคาแพงมาก 
ปัจจุบันมี “ปลอม” เยอะมาก จึงเท่ากับเป็นเหรียญ
ของหลวงปู่ทิม (ด้านหน้าเป็นโค๊ด ข.ไข่ในหยดน้ำ 
คือ เป็นโค๊ดที่ตอกเหรียญหนุมานตัวกูผู้ชนะ) 
ซึ่งอาจารย์แขกได้นำไปเข้าพิธีปลุกเสกด้วยเช่นกัน 

ดังนั้น “เหรียญมหาบพิตร” ของอาจารย์แขก 
เท่ากับมีผู้ปลุกเสก คือ หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ 
และ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ส่วนจุดดำๆ 
ที่ติดอยู่หน้าด้านเหรียญ อาจารย์แขกได้นำพระที่มีส่วนผสมของ 
“ผงจิตรลดา” นำมาบด นำมาผสมกับกาวอย่างดี 
แล้วนำมาติดที่ด้านหน้าเหรียญมหาบพิตร 
พร้อมกับผงตะไบโลหะ อาถรรพ์์ตามวิชาเหมาซาน 
ผงเหล็กไหล 700 กว่าชนิด ผสมรวมกัน 
แล้วติดด้วยเศษจีวร (ของสูง) และมีการรันเลข 
เพื่อเป็นบรรทัดฐานของเหรียญรุ่นนี้ 

สำหรับความพิเศษของเหรียญมหาบพิตร 
ซึ่งอาจารย์แขกเตรียมนำไปล้อมกรอบเพชร 
เพื่อนำขึ้นคอ โดยมีหมายเลขเรียงกัน 999 
ซึ่งนอกจากจะเปิดให้บูชาแล้ว 
อาจารย์แขกยังได้กันเหรียญไว้อีกจำนวนหนึ่ง
 เพื่อนำไปมอบให้กับวัดๆ หนึ่ง เพื่อนำไปหารายได้สร้างโบสถ์
 จังหวัดพิษณุโลก 

ประสบการณ์ของเหรียญมหาบพิตร
จากการเปิดเผยของอาจารย์แขก ชีวิตในอดีต...
ท่านเคยไปคุมตัดไม้ที่จังหวัดกาญจนบุรี 
เคยไปอยู่กับพวกกระเหรียงนานมาก 
ไปเรียนวิชาสายกระเหรี่ยงมา 
วันหนึ่งเขาไปตัดไม้ตะเคียนลงน้ำ 
ซึ่งในเวลานั้นน้ำก็ไหลแรงแต่ซุงมันไม่ไปตามน้ำ 
พยายามดันเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป 
พี่คนหนึ่งจึงเอาเหรียญมหาบพิตร 
เอาด้านที่เป็นครุฑไปวางบนซุง แล้วตอกด้วยด้ามขวาน 
พอเหรียญจมลงไปในเนื้อไม้ 
ซุงมันพลิกกลับทันที แล้วลอยไปตามน้ำ 
เหรียญมหาบพิตรมีพุทธคุณรุนแรง 
พวกพรานป่า จะพกเหรียญรุ่นนี้ 
เวลาจะนอนต้องหันหัวไปชนต้นไม้ 
แต่ก่อนจะเอาหัวชนต้นไม้ เขาจะลอกเปลือกออกก่อน 
แล้วเอาเหรียญมหาบพิตรตอกไปบนต้นไม้ให้เป็นรูปครุฑ จ
ากนั้นเอาหัวนอนชนต้นไม้ที่ติดรูปครุฑ 
หากทำได้แบบนี้ ป่าไหนก็ไม่มีทางทำอันตรายแกได้เลย


เหรียญนี้ อ.แขก ได้นำมาผ่านพิธีล้างน้ำทั้ง 5 ของเหมาซาน
ล้างพลังงานหยางให้สมดุล
และได้สร้างตามตำราวิชาเหมาซาน
ผงที่แปะอยู่ด้านหน้า เป็นการเสริมพลังงานหยางอย่างรุนแรง
ใช้อำพันแดงที่ทำสัมพันธ์กับมนุษย์โดยตรง
เหรียญนี้เปรียบเสมือนฮู้เหยียบในวิชาเหมาซาน
ที่เราพกไว้  เป็นเหรียญที่ดึงพลังงานเรื่องเงิน
เข้าหาอย่างรุนแรง


ตราบใดที่เราใช้เงินประเทศไทยอยู่ เราจะไม่ขาดเงิน

บูชา 3,000 บาท
แบบเลี่ยม 3,200 บาท
โน้ตยินดีให้บริการค่ะ





เทพไฉ่ซิงเอี้ย ปางมั่งคั่ง




บูชา 5,000 บาท


โน้ตยินดีให้บริการค่ะ


~©• จตุคามรามเทพ •©~ "รุ่นผ่าตะวัน โชติช่วง"

  ~©• จตุคามรามเทพ •©~ "รุ่นผ่าตะวัน โชติช่วง" ------------------------ ในศาสตร์ความเชื่อหลาย ๆแขนง เป็นช่วงเข้าสู่ยุคมืด เนื่อ...