พญาเต่าเรือน
อำนาจพุทธคุณทางด้านเงินทอง โชคลาภ การค้าขาย
ป้องกันภัย ช่วยปรับฮวงจุ้ย
“เต่าเรือน” จัดอยู่ในวัตถุมงคล ประเภทเครื่องราง-ของขลัง ซึ่งมีอำนาจพุทธคุณครอบจักรวาล คือ ดีในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโชคลาภ การแคล้วคลาด การค้าขาย เมตตามหานิยม (ผู้บูชาต้องการได้อะไรก็จะต้องได้ในสิ่งนั้น ๆ ซึ่งมีวัตถุมงคลเพียงไม่กี่ชนิด ที่จะมีอำนาจพุทธคุณเช่นนี้)
วัตถุมงคล “พญาเต่าเรือน” ในคอลัมน์นี้ ท่านอาจารย์แขกได้กล่าวกับผู้เขียน “เราต้องการให้ท่านผู้อ่าน มีบูชาวัตถุมงคลที่มีอยู่ในตำนานบูชา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจขณะนี้ เรามักจะพูดอยู่เสมอ ๆ ว่าเรื่องปากท้อง การทำมาหากินต้องมาก่อน ดังนั้น “พญาเต่าเรือน” จึงเป็นวัตถุมงคลที่ควรจะมีไว้บูชา เพื่อช่วยในเรื่องการค้าขาย ช่วยบันดาลในเรื่องของโชคลาภ และยังเสริมในเรื่องของความเมตตา มหาเสน่ห์ ซึ่งทุกเรื่องมีอยู่ในพญาเต่าเรือน”
- ท่านอาจารย์ไปได้พญาเต่าเรือนมาจากไหน?
อาจารย์แขก “หลวงพี่ที่รู้จักกันท่านได้มาบอกบุญ ทางวัดกำลังจะบูรณะองค์พระประทาน แต่ยังขาดปัจจัยเป็นจำนวนมาก เราจึงเดินทางไปกับหลวงพี่ (ท่านไม่ต้องการเปิดเผยตัว) พอได้เห็นสภาพขององค์พระประทาน ต้องปิดทองใหม่ทั้งองค์ ฐานพระก็ต้องทำใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เงินไม่ใช่น้อย ๆ เราก็ตอบตกลงว่ายินดีช่วย พอได้ฟังเราตอบตกลง ท่านก็ไปหยิบพญาเต่าเรือนมาให้เรา จำนวน 300 กว่าองค์ ท่านบอกว่าพญาเต่าเรือนชุดนี้ “ทัน” หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จังหวัดนครนายก แน่นอน”
- พญาเต่าเรือน หลวงพ่อสนิท มีความโด่งดังจริงหรือ?
อาจารย์แขก “พญาเต่าเรือนของหลวงพ่อสนิท เป็นเครื่องรางที่ “ดังมาก” เราได้ทำการตรวจสอบ “รอยจาร” ทันที ปรากฏว่าใช่แน่นอน เป็นรอยจารของหลวงพ่อสนิท แม้กระทั่งชนิดของหิน การแกะสลัก ซึ่งมีการซื้อขายในเว็บไซต์ตัวละเป็นหมื่น ต่ำสุด 8,500 บาท สภาพไม่สวยอย่างนี้ด้วย”
- เปรียบเทียบกับพญาเต่าเรือน หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง
อาจารย์แขก “ในวงการฯ ผู้ที่สร้างพญาเต่าเรือนโด่งดัง หนึ่งคือหลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง จังหวัดนครปฐม สองหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จังหวัดนครนายก เต่าหลวงพ่อหลิวเป็นทองแดง เต่าหลวงพ่อสนิททำด้วยหิน ตามประวัติกล่าวว่า เป็นหินกลางแม่น้ำโขง ซึ่งมีคนนำมาถวายท่าน จุดประสงค์เพื่อเอามาทำเขื่อนกั้นวัด ท่านเห็นว่าเป็นหินกลางแม่น้ำโขง จึงให้คนเอาไปแกะเป็นพญาเต่าเรือน ซึ่งมีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก”
- หลวงพ่อสนิท “เสก” จนเต่าขยับ
อาจารย์แขก “ตามประวัติ หลวงพ่อสนิทท่านมีวิชาอาคม “สูงมาก” สามารถเสกจนกระทั่งเต่าขยับได้ แม้แต่คุณนิรัช (บรรณาธิการบริหาร นิตยสารมันตระสยาม) ยังเคยไปบูชาพญาเต่าเรือน หลวงพ่อสนิท มาด้วยตัวเอง คุณนิรัชเล่าว่า หลังจากบูชาพญาเต่าเรือน ปรากฏว่าการเงินดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และจากคำบอกเล่าของ “เซียนพระ” บนห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน เคยไปที่วัดลำบัวลอย เพื่อดูการเสกพญาเต่าเรือน ของหลวงพ่อสนิท ซึ่งเป็นเต่าหินแต่ท่านเสกจนกระทั่ง “เต่าลอยน้ำ” (ยืนยันตรงกับทั้ง 2 คน)
- ท่านเป็นพระเกจิฯ ที่มี “ทิพย์ญาณ”
อาจารย์แขก “ความมหัศจรรย์ของหลวงพ่อสนิท คือ ในแต่ละวันท่านจะหยิบเต่า เท่ากับจำนวนคนที่จะมาในวันนั้น (ไม่มีขาด ไม่มีเกิน) เสมือนท่านมี “ญาณทิพย์” รู้ว่าในวันนั้นจะมาเอาเต่ากี่คน และทุกวันนี้วัตถุมงคลของหลวงพ่อสนิททุกรายการ “แพงมาก” (นกสาลิกา บูชาตัวละ 50,000 , 60,000 บาท พญาเต่าเรือน ขนาดเล็ก บูชาตัวละ 30,000 บาท)
วัตถุมงคล “พญาเต่าเรือน” หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย เราได้ตอกเลข ตอกโค๊ด เพื่อเป็นการจัดระเบียบของวัตถุมงคล ซึ่งจะมีอยู่ในสาระบบของวัตถุมงคล ซึ่งตอกด้วยเนื้อจ้าวน้ำเงิน เลข 1 ถึง 300 เรียบร้อยแล้ว”
- อำนาจพุทธคุณในพญาเต่าเรือน
อาจารย์แขก “วัตถุมงคล “พญาเต่าเรือน” มีความเชื่อกันว่า อำนาจพุทธคุณทางด้านเงินทอง โชคลาภ การค้าขาย การรวมคนจำนวนมาก และยังสามารถป้องกันภัยได้อีกด้วย วิชาไสยศาสตร์โบราณ วิชาเต่าเรือนเป็นวิชาที่สูงมาก ใช้ในเรื่องเมตตาก็ได้ ใช้ฆ่าคนก็ได้ ในเรื่องเกี่ยวกับคดีความก็ได้ ซึ่งหลวงพ่อสนิทท่านเคยบอก หากเป็นคดีความกับใคร ให้เขียนชื่อคนๆ นั้นแล้วเอาเต่าวางทับ คดีความก็ดับลงได้”
- นำไปปรับในวิชาฮวงจุ้ย
อาจารย์แขก “ในวิชาฮวงจุ้ยมีตำแหน่ง 4 สัตว์ มังกรเขียว เสือขาว เต่าดำ หงส์แดง ดังนั้นคนที่ได้เต่า “ตัวเล็ก” ของหลวงพ่อสนิทไป แล้วนำไปไว้ด้านหลังโต๊ะทำงาน ที่นั่ง จะเปรียบเสมือนพลังงานเต่าดำ ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา สิ่งที่วิเศษสุดของพญาเต่าเรือน คือ เรายังใส่ “น้ำมันเต่าทอง” ลงไปด้วย”
- การ “พก” พญาเต่าเรือน
อาจารย์แขก “พกในพวงกุญแจก็ได้”
- ประวัติความเป็นของพญาเต่าเรือน
อาจารย์แขก “ประวัติความเป็นมาของเต่าเรือน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเรียก “พญาเต่าเรือน” เนื่องจากเป็นเรื่องราวที่มีในตำนานพระเจ้า 500 ชาติ กล่าวว่า พระพุทธเจ้าทรงเสวยชาติ เป็นพญาเต่ามีร่างกายใหญ่มาก โดยมีขนาดใหญ่เท่ากับบ้านเรือน จำศีลอยู่ในเกาะแห่งหนึ่ง มีอายุยืนนานมานับร้อย ๆ ปี วันหนึ่งมีคนเดินเรือสำเภา เพื่อไปทำการค้าขาย แต่เกิดพายุฝนอย่างหนัก ทำให้เรือแตกได้รับความเสียหาย คนบนเรือจึงติดอยู่บนเกาะแห่งนั้น จนกระทั่งอาหารที่ติดตัวไม่มีเหลือ ด้วยความอดอยากทำให้คนเรือฆ่ากันเอง เพื่อเอาเนื้อของอีกฝ่ายมากิน
พญาเต่าเรือนเกิดความสลดสังเวชใจ ปรารถนาจะช่วยเหลือคนเหล่านั้น จึงกล่าวแก่คนทั้งหลายว่า พวกท่านอย่าทำบาปแก่กันและกันเลย เราขอสละชีวิตเลือดเนื้อ เพื่อเป็นอาหารแก่ท่านทั้งหลาย จากนั้นพญาเต่าเรือน จึงไต่ขึ้นไปบนยอดเขา แล้วกระโดดลงมายังพื้นล่าง ทำให้กระดองที่หุ้มตัวแตกออก ขาดใจตายทันที โดยเนื้อหนังฉีกเป็นชิ้น ๆ พวกคนเรือจึงพากันกินเนื้อของพญาเต่าเรือน และกระดองของพญาเต่าเรือน ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก คนเรือจึงเอามาทำเป็นเรือออกสู่ทะเล เพื่อนำพวกตนเดินทางกลับบ้านได้ในที่สุด คนเรือมีความสำนึกในบุญคุณของพญาเต่าเรือน จึงสร้างภาพขึ้นมาแล้วกราบไหว้ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูในบุญคุณของพญาเต่าเรือน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลก คนเรือที่สักการบูชาพญาเต่าเรือน ต่างพบความเป็นสิริมงคลกันทั่วหน้า พญาเต่าเรือนจึงกลายเป็น “สุดยอด” เครื่องรางมาตั้งแต่บัดนั้น”
บูชา 3,000 บาท
